หลายคนคงคุ้นเคยกับ a an the เป็นอย่างดี เพราะเป็นสิ่งที่เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็กเวลาเรียน Grammar ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าคำเหล่านี้เรียกว่า Article รวมถึงไม่รู้หลักการใช้ Article ว่า a an the ใช้ยังไง ซึ่งวันนี้เราจะอธิบายในเรื่องนี้กัน
A An The คืออะไร
a an the คือ คำนำหน้าคำนามภาษาอังกฤษ มีหน้าที่ขยายความคำนาม a an the หรือ Article จัดอยู่ในกลุ่มของ Determiner ซึ่ง Determiner นั้นสามารถแบ่งออกเป็น 7 ประเภทหลัก ดังนี้
- Article (a, an, the)
- Demonstrative (this, that, these, those)
- Possessive determiner (my, your, our, their)
- Quantifier (all, some, many, no)
- Number (one, two, three)
- Distributive determiner (each, every)
- Interrogative determiner (what, which)
Determiner เหล่านี้ มีหน้าที่หลักๆ ที่เหมือนกันก็คือเพื่อขยายความคำนาม โดยจะถูกวางไว้หน้าคำนามเสมอ ในบทความนี้ เราจะมาโฟกัสกันที่ประเภทของ Article กันก่อน
Article สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทย่อย คือ Definite article และ Indefinite article
- Definite article ได้แก่ the ใช้นำหน้าคำนามเฉพาะเจาะจง ที่เป็นชื่อของบุคคล สถานที่ และสิ่งต่าง ๆ รวมถึงสามารถใช้นำหน้าคำนามที่ได้มีการกล่าวถึงไปแล้ว โดยผู้อ่านหรือผู้ฟังสามารถเข้าใจได้ว่าหมายถึงสิ่งใด
- Indefinite article ได้แก่ a, an ใช้นำหน้าคำนามที่ไม่เฉพาะเจาะจงที่เป็นคำนามเอกพจน์ โดยมีความหมายเหมือนกันกับหนึ่ง (one) ที่เป็นจำนวน
ทำไมต้องใช้ A An The
การใช้ a an the นั้นเพื่อกำหนดว่าคำนามนั้นเป็นคำนามเฉพาะเจาะจงหรือไม่เฉพาะเจาะจง โดยทุกๆ คำนามในประโยคจะต้องมี Determiner นำหน้าเสมอ ซึ่งเป็นข้อกำหนดตามหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
หลักการใช้ A An The ใช้ยังไง
การใช้ a an the มีหลักการง่ายๆ เป็นสิ่งที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็กๆ หลายคนอาจจะหลงลืมไป วันนี้เราจะมาทวนความจำกันอีกรอบ
การเติม the จะถูกวางไว้หน้าคำนามที่เฉพาะเจาะจง ส่วนการเติม a an นั้นจะถูกวางนำหน้าคำนามเอกพจน์ทั่วไปที่ไม่มีความเฉพาะเจาะจง มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- A – ใช้นำหน้าคำนามทั่วไปที่เป็นคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ที่ไม่สามารถระบุเจาะจงได้ว่าหมายถึงสิ่งใด ตัวอย่างเช่น
- A boy = เด็กชายคนหนึ่ง
- A school = โรงเรียนแห่งหนึ่ง
- A table = โต๊ะตัวหนึ่ง
- An – ทำหน้าที่คล้ายกันกับ ‘A’ คือ ใช้นำหน้าคำนามทั่วไปที่เป็นคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ที่ไม่สามารถระบุเจาะจงได้ว่าหมายถึงสิ่งใด โดยเป็นคำนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ (a, e, i, o, u) หรือคำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงอ. (ออ อ่าง) ตัวอย่างเช่น
- An apple = แอปเปิ้ลหนึ่งผล
- An angel = นางฟ้าองค์หนึ่ง
- An anime = การ์ตูนเรื่องหนึ่ง
- The – ใช้นำหน้าคำนามเฉพาะเจาะจงที่เป็นชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ที่เป็นทั้งคำนามนับได้และนับไม่ได้ รวมถึงใช้นำหน้าคำนามที่ได้มีการกล่าวถึงไปแล้ว ตัวอย่างเช่น
- The sun = พระอาทิตย์
- The Everest mountain = ภูเขาเอเวอร์เรส
- The Parkers = ครอบครัวพาร์กเกอร์
การใช้ A An The พร้อมตัวอย่างประโยค
ตัวอย่างการใช้ A ในประโยค
- There is a cat on the tree.
- A bird has two wings.
- He is a singer.
ตัวอย่างการใช้ An ในประโยค
- She is eating an orange.
- This is an amazing movie.
- An umbrella is lost.
ตัวอย่างการใช้ The ในประโยค
- The Eiffel is located in Paris.
- There are no plans to release the Barbie movie on Netflix.
- I haven’t seen her since the day she left town.
สรุปหลักการใช้ A An The
เห็นไหมว่าหลักการใช้ Article นั้นไม่ยากอย่างที่คิด แต่อาจจะมีรายละเอียดยับย่อยที่ไม่ได้อยู่ในหลักการด้านบนที่กล่าวมา ซึ่งต้องใช้การจำเท่านั้น คือ
- คำที่ขึ้นต้นด้วยสระ a, e, i , o, u ไม่ได้ใช้กับ an เสมอไป เพราะจะมีคำยกเว้นบางคำที่ขึ้นต้นด้วยตัวยู (U) แต่ไม่ได้ออกเสียงอ. เช่นคำว่า unit, user, university เป็นต้น คำเหล่านี้จะขึ้นต้นด้วย a
- คำที่ไม่ได้ขึ้นต้นด้วยสระ a, e, i , o, u แต่ออกเสียงอ. จะขึ้นต้นด้วย an เพื่อช่วยในการออกเสียง เช่นคำว่า hour, heir, honour เป็นต้น
- คำนามบางประเภทไม่ต้องใช้ Article นำหน้า เช่น ชื่อเมือง, วัน, ภาษา เป็นต้น
- สถานที่ทางธรรมชาติ อย่าง แม่น้ำ ลำธาร ภูเขา ทะเล หมู่เกาะ มหาสมุทร จะนำหน้าด้วย the
- ชื่อประเทศบางประเทศขึ้นต้นด้วย the เช่น The united States, The Netherlands, The United Arab Emirates เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีหลัก Grammar อื่นๆ ที่เกี่ยวกับการใช้ Article ซึ่งจะไม่ขอลงรายละเอียดลึกมากไปกว่านี้เพราะเดี๋ยวบทความจะยาวไม่รู้จบ แต่ถ้าอยากเรียนรู้เพิ่มเติม Jasper & Reader แนะนำเรื่องนี้เลย