หลักการใช้ however ขึ้นต้น กลาง ท้ายประโยค พร้อมตัวอย่าง

เลือกอ่านตามหัวข้อ

เขียนกี่ทีก็ผิดไวยากรณ์ทุกที ไม่รู้สักทีว่า However มีหลักการใช้ยังไง

การใช้คำให้ถูกหลัก grammar เป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ เพราะถ้าเราไม่รู้หลักการใช้คำให้ถูกต้อง essay ของเราก็จะถูกมองว่าไม่มีคุณภาพแม้ว่าเราจะทุ่มเทแรงกายและแรงใจไปกับมันมากแค่ไหนก็ตาม

แต่หลักการใช้ however ให้ถูกต้องนั้นไม่จำเป็นต้องยากขนาดนั้นครับ ระหว่างที่ผมฝึกเขียน essay ให้พร้อมสำหรับการทำคะแนน IELTS พาร์ท Writing ผมก็ได้เรียนรู้ว่าการเข้าใจพื้นฐานไวยากรณ์จะทำให้เราเข้าใจหลักการใช้คำได้ดีมากขึ้นครับ

วันนี้ Jasper & Reader จะมาตอบทุกคำถามที่ทุกคนสงสัยว่า จริงๆ แล้ว หลักการใช้ however มีอะไรบ้าง แล้ว however เป็นคำอะไร ต้องใช้ตอนไหน พร้อมกับตัวอย่างประโยคที่จะทำให้เข้าใจการใข้ however มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย!

However คืออะไรกันแน่? พื้นฐานสำคัญสู่การใช้ however อย่างมือโปร

สำหรับคนที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดีอยู่แล้วสามารถข้ามได้เลยนะครับ แต่ผมแนะนำมากๆ ว่าลองอ่านดูก่อน เพราะเราจะสามารถเข้าใจถึงความเชื่อมโยงของ grammar และหลักการใช้ however อย่างเป็นระบบมากขึ้นครับ

จริงๆ แล้ว However มีความหมายหลายอย่างมากๆ นั่นเป็นเพราะว่า However แปลว่า “แต่” “ยกเว้น” “อย่างไรก็ตาม” “อย่างไรก็ดี” โดยที่ However มักจะถูกเรียกว่าเป็น Conjunctive adverb ที่เป็นกริยาวิเศษณ์ที่ใช้เชื่อมประโยค ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่เราต้องเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ However ครับ

However แม้จะถูกเรียกว่าตัวเชื่อมประโยค แต่ในทางไวยกรณ์นั้น However ไม่ใช่ Conjuction หรือคำสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคตามไวยกรณ์ภาษาอังกฤษครับ เราถึงได้เรียก However ว่า Conjunctive Adverb 

เอ๊ะ แบบนี้ หมายความว่ายังไง?

เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ ว่า However ใช้ในการ “เชื่อมประโยค” ซึ่งเชื่อมประโยคตรงนี้นี่แหละครับที่ทำให้เราเข้าใจผิดกันบ่อยๆ ผมเองก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรตอนเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองถึงได้มารู้ที่หลังว่า “การเชื่อมประโยค” ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ นั้นมี 2 ความหมายครับ

ความหมายแรกคือ การเชื่อมประโยคสองประโยคเข้าด้วยกัน ซึ่งการเชื่อมแบบนี้เราต้องใช้สิ่งที่เรียกว่าคำสันธาน หรือ Conjunction เพื่อเชื่อมสองประโยคเข้าด้วยกันให้กลายเป็นประโยคเดียวที่มีความหมายใหม่ครับ

ความหมายที่สองคือ การเชื่อม “ไอเดียของประโยค” เข้ากับอีกประโยคนึงด้วยสิ่งที่เรียกว่าคำเชื่อม หรือที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ว่า Linking word หรือ Transition word ซึ่งการใข้ however จะเข้าข่ายหมวดนี้ครับ

การเชื่อมความโดยใช้ Transition word แบบนี้จะทำให้การเขียน essay ของเราไหลลื่นขึ้น เพราะคนอ่านสามารถเข้าใจความเชื่อมโยงของไอเดียระหว่างประโยคได้ แต่การเชื่อมประโยคแบบความหมายที่สองนั้นไม่ใช่การสร้างประโยคใหม่แต่อย่างใดตามหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษครับ

และสองความหมายตรงนี้นี่เองที่ทำให้การใช้ however เป็นเรื่องที่งงสุดๆ ไปเลยครับ

However มีไว้เชื่อม “ไอเดีย” ของ 2 ประโยค เพื่อสื่อประเด็นที่เราต้องการสื่อสารกับคนอ่าน ซึ่งแตกต่างจากการใช้ Conjuction เพื่อนำสองประโยคมารวมกันเป็นประโยคเดียวเพื่อให้เกิดความหมายใหม่ครับ

ข้อควรระวัง !

ข้อแม้สำคัญก็ในการใช้ however เชื่อมสองประโยคเข้าด้วยกันคือการใช้ semicolon ครับ ซึ่งกรณีนี้จะเป็นกรณีเดียวที่เราสามารถใช้ however เชื่อมสองประโยคได้ แต่ทั้งนี้การเชื่อมประโยคแบบนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากการใช้ however แต่เกิดจากการใช้ semicolon ครับ

หลักการใช้ however และ ตัวอย่างประโยค however ที่ใช้งานได้จริง

เราเข้าใจพื้นฐานสำคัญของ however แล้วว่า however เป็น Conjunctive adverb และถูกใช้เพื่อเชื่อมไอเดียของสองประโยคให้มีความไหลลื่น ทีนี้สิ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือหลักการใช้ however ว่าสามารถใช้ยังไงได้บ้างให้ถูกหลักแกรมม่า เราลองมาดูวิธีการใช้ however แบบลงลึกกันเลยครับ

1. การใช้ however ขึ้นต้นประโยค และ การใช้ however ท้ายประโยค ทำหน้าที่ Conjunctive adverb

เราจะใช้ however ขึ้นต้นประโยคก็ต่อเมื่อเราต้องการใช้ however แทนคำว่า “อย่างไรก็ดี” “อย่างไรก็ตาม” “แต่” เพื่อเป็นการเชื่อมไอเดียของสองประโยคครับ

โดยเหตุผลหลักๆ ในการใช้ however เชื่อมไอเดียแบบนี้นั้น เราทำไปเพื่อสื่อประเด็นสำคัญที่เราต้องการจะพูดใน “ประโยคที่สอง” ครับ เราลองดูตัวอย่างการใช้ however ขึ้นต้นประโยคกันก่อนเลย

โครงสร้างการใช้ However ขึ้นต้นประโยค

ตัวอย่างนี้ เราอ่านแล้วจะรู้สึกได้เลยว่า สิ่งที่ต้องการจะสื่อไม่ใข่เรื่อง Jasper & Reader เป็นครูที่ยอดเยี่ยม แต่ต้องการใช้ However ในการเน้นย้ำและสื่อว่า Jasper & Reader ไม่ใช่คนที่หล่อครับ

ทีนี้เรามาลองดูตัวอย่างของการใช้ however ท้ายประโยคบ้างครับ

โครงสร้างการใช้ However ท้ายประโยค

จะเห็นได้ว่าการใช้ however ขึ้นต้นประโยคกับท้ายประโยคมีความหมายเหมือนกันเลย แต่ส่วนตัวผมคิดว่าการใช้ however ขึ้นต้นประโยคเป็นกรณีที่เราเห็นได้บ่อยที่สุดครับ

2. การใช้ however อยู่กลางประโยค ทำหน้าที่เป็น Interrupter

การใช้ however กลางประโยค คือ การใช้ however ทำหน้าที่เป็น Interrupter ครับ 

Interrupter คือ การใช้ comma ในประโยคเพื่อแทรก “ไอเดียเล็กๆ” เข้าไประหว่างประโยค ช่วยให้สื่อถึงอารมณ์ของประโยค หรือเพื่อเน้นย้ำความสำคัญของไอเดียครับ

ส่วนตัวแล้วผมชอบการใช้ however แบบนี้มากๆ เพราะสามารถสื่อถึงอารมณ์ของประโยคได้ดีสุดๆ ไปเลย แต่ข้อควรระวังของการใช้ however อยู่กลางประโยคแบบนี้ คือ อาจจะทำให้ประโยคอ่านได้ยาก ถ้าเรามีการใช้ comma ระหว่างประโยคค่อนข้างเยอะแบบตัวอย่างด้านล่างครับ

ถ้าใครกำลังเรียน IELTS และฝึกเขียนพาร์ท Writing อยู่ละก็ การใช้ However กลางประโยคอย่างถูกจังหวะจะช่วยให้การเขียน essay เราดูดีมากๆ ครับ

3. การใช้ however เพื่อแปลว่า ไม่ว่ายังไง หรือ ไม่ว่าขนาดไหน ในหน้าที่ Adverb แบบปกติ

ผมคิดว่าอีกหนึ่งหลักการใช้ however ที่สำคัญคือการใช้เพื่อสื่อความหมายว่า “ไม่ว่ายังไง” หรือ “ไม่ว่าขนาดไหน” ครับ โดยที่เรามักจะใช้ however ก่อนหน้า Adjective หรือ Adverb ครับ เราลองมาดูตัวอย่างกัน

จะเห็นได้ว่าการใช้ However แบบนี้จะมีความแอบบ่นนิดนึงใช่ไหมครับ แต่ในบางครั้ง however ในรูปแบบนี้ก็สามารถใช้เพื่อสื่อถึงอารมณ์ที่เราสามารถยอมรับผลการกระทำต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

การใช้ however สุภาพไหม และ however ใช้ตอนไหนดี?

การใข้ However ถือเป็นคำที่มีความ formal ครับ นั่นแปลว่า however จะถูกใช้ในงานเขียนที่ค่อนข้างเป็นทางการอย่าง Academic Writing (และการสอบ IELTS รวมถึง GRE) ดังนั้นการใช้ however จึงถือว่าสุภาพ และมักจะถูกใช้แทนคำว่า but ที่มีความเป็นทางการน้อยกว่าครับ

โดยหลักการใช้ however ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ขึ้นต้น ลงท้าย หรือวางไว้กลางประโยค มักจะถูกนำไปใช้อยู่ทั้งหมด 3 กรณีครับ

  • ใช้ however เพื่อสร้างความประหลาดใจ : เราสามารถใช้ however ขึ้นต้นประโยคเพื่อสร้างความประหลาดใจในประหลาดที่สองได้ครับ ซึ่งจะทำให้ essay ของเราน่าสนใจมากขึ้น
  • ใช้ however เพื่อสื่อประเด็นหลังจากประโยคก่อนหน้า : จริงๆ ข้อนี้ค่อนข้างเหมือนกับข้อแรกเลยครับ แต่บางครั้ง การเน้นประเด็นก็ไม่จำเป็นต้องสร้างความประหลาดใจ แต่เราต้องการคำเชื่อมบางอย่างเพื่อให้เราสามารถโยงไปสู่ประเด็นที่เราอยากจะพูดจริงๆ ใน essay เรา ซึ่ง however ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ตัวนึงครับ
  • ใช้เพื่อเป็น Adverb ในการสื่อถึงอารมณ์ “ไม่ว่ายังไง”

 

คำที่ใช้แทน however ได้ (และคำที่ใช้ไม่ได้)

คำที่ใช้แทน however ได้ ส่วนใหญ่มักจะเป็น Conjunction ที่ใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายตรงกันข้ามเข้าด้วยกันครับ เช่น but, although, despite เพราะมีความหมายที่คล้ายกันมากๆ แต่ก่อนจะใช้ต้องอย่าลืมว่าคำเหล่านี้เป็น Subordinating conjunction ที่มีหลักการใช้ที่แตกต่างจาก however ครับ 

นอกเหนือจาก Conjunction แล้ว เราสามารถใช้ Nevertheless ได้เช่นกันครับ เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกัน 100% เลย ส่วนอีกคำที่อาจจะได้ไม่ได้เหมือนกันมากก็คือ On the other hand ที่มีความหมายว่า “ในทางกลับกัน” ครับ

แต่คำที่มักพูดถึงบ่อยๆ เวลาพูดถึง however ก็คือคำว่า anyway ครับ จริงๆ แล้ว anyway เป็นที่คำไม่สามารถใช้แทน however ได้อย่าง 100% ครับ

Anyway ไม่สามารถใช้เป็นตัวเชื่อมไอเดียระหว่างประโยคอย่างที่ however ทำได้ และไม่สามารถใช้ในงานเขียนทางการได้ เนื่องจาก anyway เหมาะกับการใช้เป็นภาษาพูดมากกว่า แต่ถ้าในฐานะของ Adverb ละก็ Anyway มีความหมายเดียวกับ However ที่แปลว่า “ไม่ว่าจะยังไง” ครับ

สุดท้ายก่อนจากกัน

การใช้ภาษาอังกฤษอย่างเชี่ยวชาญมาจากความเข้าใจในพื้นฐานที่แข็งแรงครับ การที่เรามีปัญหากับการใช้ however นั้นไม่ใช่เพราะเราไม่เก่ง แต่เป็นเพราะระบบการศึกษาไทยที่จัดการสอนภาษาอังกฤษที่ทำให้มันยากเกินความจำเป็นครับ 

ผมทำ Jasper & Reader ขึ้นมาเพื่อให้เรามีแหล่งความรู้คุณภาพที่ทำให้เราสามารถเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองได้ และบทความการใช้ however ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมหวังว่าจะมีประโยชน์ และช่วยให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้นครับ