Conjunction กุญแจสำคัญของการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเขียน หรือ การพูด เพื่อให้ไอเดียของเราเข้าถึงใจของคนอ่านและคนฟัง
ปัญหาที่หลายๆ คนพบเกี่ยวกับการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียน Essay คือการใช้ Conjunction อย่างถูกหลักไวยกรณ์ครับ
Conjunction เป็นหนึ่งใน Part Of Speech ที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะ Conjunction ช่วยให้เราเชื่อมโยงแนวคิดที่แตกต่างกันเข้าด้วยกันเป็นไอเดียใหม่ในรูปแบบของประโยคที่สละสลวย เข้าถึงใจคนอ่าน และช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วันนี้ Jasper & Reader จะมาแชร์เรื่องการใช้ Conjunction ว่าจริงๆ แล้ว คำสันธานภาษาอังกฤษ คืออะไร? มีกี่ประเภท และมีหลักการใช้ Conjunction อย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลยครับ
Conjunction คืออะไร มีกี่ประเภท?
Conjunction คือ คำสันธานภาษาอังกฤษที่สามารถเชื่อมคำ วลี หรือ ประโยคสองประโยคเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประโยคใหม่ โดยสามารถแบ่งได้ 4 ประเภท ได้แก่ Coordinating conjunction, Subordinating conjunction, Correlative conjunction, และ Conjunctive adverb.
Conjunction เชื่อมอะไรกับอะไร ได้บ้าง?
Conjunction สามารถเชื่อมคำ วลี หรือ ประโยคสองประโยคเข้าด้วยกัน ซึ่งหลักการเชื่อมจะมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่กรณี เราลองมาดูตัวอย่างกัน
การเชื่อม | ตัวอย่างการเชื่อม |
---|---|
คำ | Me and my friend are walking together (ฉันและเพื่อนของฉันกำลังเดินด้วยกัน) |
วลี | Jasper usually teaches English or works on a project. (ปกติแล้วแจ๊สเปอร์มักจะสอนภาษาอังกฤษหรือทำงาน) |
ประโยค | Jasper is one of the most visited websites in Thailand, but he found out that he was only dreaming! (แจ๊สเปอร์เป็นเว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในประเทศไทย แต่เขาก็พบว่าจริงๆ แล้วเขาแค่ฝันไป!) |
จะเห็นได้ว่าตัวอย่างการเชื่อมคำด้วย And หรือคำว่า “และ” ในภาษาไทย สามารถเชื่อมคำว่า “ฉัน” และ “เพื่อนของฉัน” เข้าด้วยกัน เพื่อให้ประโยคสวยงามขึ้น แทนที่จะเป็น 2 ประโยคอย่าง ฉันกำลังเดินเดิน กับ เพื่อนของฉันกำลังเดิน
ส่วนในตัวอย่างของการเชื่อมวลี ในตัวอย่างนี้ คำสันธานภาษาอังกฤษ or เชื่อม teaches English กับ works on a project เข้าด้วยกัน
และในตัวอย่างสุดท้าย คำสันธานภาษาอังกฤษ but เชื่อมประโยค Jasper is one of the most visited website in Thailand เข้ากับ he found out that he was only dreaming กลายเป็นประโยคใหม่ที่มีความหมายใหม่นั่นเองครับ
แต่ความยากจริงๆ ของการใช้ Conjunction เกิดขึ้นเมื่อเราต้องการเชื่อมประโยคสองประโยคเข้าด้วยกันครับ ซึ่งเราจะต้องเข้าใจความแตกต่างของคำสันธานภาษาอังกฤษทั้ง 4 ประเภท และพื้นฐานสำคัญเกี่ยวกับการใช้ comma และความแตกต่างระหว่าง Independent clause กับ dependent clause ครับ
Independent clause คือ ประโยคที่มีใจความสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาประโยคอื่นๆ เพื่อสื่อสารใจความสำคัญ ในขณะที่ dependent clause คือ ประโยคที่ไม่สามารถสื่อสารใจความได้อย่างสมบูรณ์ ต้องพึ่งพา Independent clause เพื่อให้ใจความสมบูรณ์
โดยคำสันธานภาษาอังกฤษแต่ละประเภทมีความสามารถในการเชื่อม Independent clause และ dependent clause ที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมถึงการใช้ comma ด้วยครับ มาดู Conjunction ทั้ง 4 ประเภทกันเลย
Subordinating conjunction
Subordinating conjunction เป็นคำสันธานภาษาอังกฤษที่ใช้เชื่อมประโยคที่มีใจความสมบูรณ์ (Independent clause) และประโยคที่มีใจความไม่สมบูรณ์ในตัวเอง (Dependent clause) เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประโยคใหม่ ตัวอย่าง Subordinating conjunctions ที่พบได้บ่อยๆ ได้แก่ Because, if, although, until และ while ครับ
Subordinating conjunction นั้นเรามักจะเรียกมันว่า “dependent marker word” ครับ ซึ่งถ้าแปลเป็นไทยจะหมายความประมาณว่า เป็นคำที่เหมือนป้ายกำกับว่าประโยคที่อยู่ข้างๆ ฉัน คือ dependent clause นะ
ซึ่งแปลว่า ถ้าประโยคไหนมีเจ้า dependent marker word แปะอยู่ข้างหน้า หรือ ข้างหลังประโยค แปลว่าประโยคนั้นจะกลายเป็น dependent clause ไปโดยปริยายครับ เราลองมาดูตัวอย่างกัน