FANBOYS คือ? Coordinating conjunction อัพสกิล essay ให้ปังสุดๆ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

ได้ยินมานานแล้วกับคำว่า FANBOYS แต่จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันนะ?

ผมว่าใครที่กำลังฝึกเขียน essay อยู่ จะต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับ FANBOYS ไม่มากก็น้อยครับ เพราะเจ้า FANBOYS เป็นสิ่งที่ช่วยให้ essay เราดีขึ้นมากๆ ถ้าใช้อย่างถูกต้องตามหลัก Grammar

ดังนั้นวันนี้ Jasper & Reader จะมาอธิบายว่าจริงๆ แล้ว fanboys คืออะไร มีอะไรบ้าง และสามารถนำ Fanboys ใช้ยังไงในการเขียน essay พร้อมตัวอย่างประโยค fanboys ที่ถูกต้องตามหลักแกรมม่า อัพเลเวล essay เราให้ปังสุดๆ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

Fanboys คืออะไร?

FANBOYS คือ ตัวย่อของคำสันธานภาษาอังกฤษที่เรียกว่า Coordinating conjunction ทั้งหมด 7 ตัว ได้แก่ For, And, Nor, But, Or, Yet, และ So ซึ่งมีความสามารถในการเชื่อมประโยคหลัก (Independent clause) สองประโยคเข้าด้วยกัน

มีสองเรื่องที่เราต้องเข้าใจเกี่ยวกับ FANBOYS ครับ 

เรื่องแรกคือ คำสันธานภาษาอังกฤษ ที่เราเรียกว่า Conjunction นั้น มีหน้าที่ในการเชื่อมคำ วลี หรือประโยคสองประโยคเข้าด้วยกัน 

แต่สิ่งที่เป็นปัญหาอย่างมากเกี่ยวกับการใช้ conjunction คือเรื่องของการเชื่อมประโยคครับ นั่นเป็นเพราะว่าเราต้องเข้าใจเกี่ยวกับ independent clause กับ dependent clause ด้วย

Independent clause คือ ประโยคที่ประกอบไปด้วยประธาน กริยา และมีใจความสมบูรณ์ในตัวเอง เราอ่านประโยคนี้ปุ้บ เราเข้าใจความหมายของประโยคปั้บ แบบไม่สงสัยว่าประโยคขาดอะไรไปรึเปล่า

ในขณะที่ dependent clause เป็นประโยคที่ประกอบด้วยประธาน กริยา แต่ต้องพึ่งพาประโยคอื่นเพื่อให้ใจความสมบูรณ์ครับ

หน้าที่ของ conjunction โดยทั่วไป คือการเชื่อม independent กับ dependent clause เข้าด้วยกัน แต่เจ้า FANBOYS conjunction ที่ว่านี้พิเศษกว่า Conjunction ประเภทอื่นๆ ครับ

ในทาง Grammar นั้น FANBOYS conjunction หรือ Coordinating conjunction สามารถเชื่อมประโยคใจความสมบูรณ์สองประโยคเข้าด้วยกันเป็นประโยคเดียวได้ผ่านการเลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งใน FANBOYS Conjunction และ comma คั่นกลางระหว่างสองประโยคครับ

โครงสร้างประโยคการใช้ FANBOYS Conjunction

แต่บางครั้งเราจะเห็นในงานเขียนบางอ้นว่า เราสามารถวางคำสันธานไว้ต้นประโยคได้โดยไม่ต้องใช้ comma เลย ซึ่งถามว่าแบบนี้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ไหม? คำตอบคือถูกครับ เพราะ Independent clause สามารถอยู่ได้ด้วยตนเองนั่นเองครับ

โครงสร้างประโยคการใช้ FANBOYS Conjunction แบบไม่มี comma

ผมว่าเราเข้าใจพื้นฐานการใช้ conjunction กันแล้ว เราลองมาดูหลักการใช้ fanboys conjunction พร้อมตัวอย่างกันเลยดีกว่าครับ

หลักการใช้ Fanboys conjunction พร้อมตัวอย่างประโยค

ที่ผมปูพื้นฐานข้างบนไว้ก็เพื่อให้เรามีพื้นฐานสำคัญในการเข้าใจหลักการใช้ FANBOYS Conjunction อย่างมีประสิทธิภาพครับ

ถ้าใครกำลังเตรียมสอบ IELTS อยู่ จะรู้ว่า ถ้าเราอยากจะได้คะแนนดีๆ ในพาร์ท writing เราต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่า compound sentence และ complex sentence ใน essay ของเราให้ได้อย่างชำนาญและเหมาะสมกับบริบทใน essay ครับ

เพราะว่า compound และ complex sentence สามารถแสดงถึงสไตล์และอารมณ์ของเฃคนเขียน essay ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การสร้างประโยคเหล่านี้ได้เป็นการส่งสัญญาณให้กับกรรมการผู้สอบถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมในการใช้ภาษาอังกฤษของเราด้วยครับ

ซึ่ง FANBOYS conjunction นี่แหละครับคือกุญแจสำคัญในการสร้าง compound sentence ที่ช่วยให้ essay ของเราคุณภาพคับแก้ว (ส่วน conjunction ประเภทอื่นๆ เช่น subordinating conjunction จะใช้เพื่อสร้าง complex sentence ครับ)

ทีนี้เรามาดูหลักการใช้ fanboys conjunction แต่ละตัวกันเลยครับว่าจะช่วยให้ essay เราดูดีได้ยังไงบ้าง

1) การใช้ For เป็น FANBOYS conjunction

For นั้นเมื่อเรานำมาใช้เป็น Coordinating conjunction จะมีความหมายว่า “เพราะว่า” “เนื่องจาก” ซึ่งมีความหมายคล้ายกับการใช้ because ครับ 

โดยการใช้ for เป็นคำสันธานภาษาอังกฤษมักจะถูกใช้ในบริบทที่ค่อนข้างเป็นทางการครับ เราลองมาดูตัวอย่างประโยคกัน

ตัวอย่างการใช้ for เป็น conjunction

อย่างไรก็ดี หากเรามองการใช้ for เพื่อเป็น Conjunction อย่างเดียวก็อาจจะไม่ถูกซะทีเดียวครับ เพราะ For นั้นสามารถทำหน้าที่ใน Part of speech ในส่วนของ Preposition เพื่อใช้ในการแสดงเหตุผลได้อีกด้วยครับ

2) การใช้ And เป็น FANBOYS conjunction 

ถ้าถามว่า FANBOYS conjunction ตัวไหนใช้บ่อยที่สุด ผมคิดว่าจะน่าเป็นคำว่า and นี่ต้องติด Top 3 แน่นอนครับ เพราะวิธีการใช้ and นั้นมีหลากหลายมากๆ ทั้งการเชื่อมคำสองคำด้วยกัน เชื่อมสองประโยคเข้าด้วยกัน ไปจนถึงกระทั่งใช้ในภาษาพูดครับ 

แต่ถ้าเราพูดถึงการใช้เพื่อการเขียน essay ละก็ การใช้ and เชื่อมประโยคและเชื่อมคำเป็นสองสิ่งที่เราพบบ่อยที่สุด โดย and มีความหมายว่า “และ” ครับ

การใช้ and เชื่อมคำ

การใช้ and เชื่อมคำ กับการใช้ and เชื่อมประโยคจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยตรงการใช้ comma ครับ

ตัวอย่างการใช้ and เชื่อมคำ

จะเห็นว่าการเชื่อมคำด้วย and แบบนี้จะไม่ใช้คอมม่า ซึ่งกรณีนี้เป็นกรณีที่เราใช้ and เพื่อเชื่อมคำกริยาสองคำเข้าด้วยกัน โดยที่มีประธานเป็นคนเดียว นั่นก็คือ I ครับ

แต่ถ้าเกิดเรามีการพูดถึงสิ่งของหรือการกระทำที่มีจำนวนมากกว่าหรือเท่ากับสาม เราจะต้องเริ่มใช้ comma ไว้หน้า and แบบประโยคด้านล่างครับ

ตัวอย่างการใช้ and เชื่อมคำ แบบมี comma

การใช้ and เชื่อมประโยค

การใช้ and เชื่อมประโยคนั้นคือการเชื่อมประโยคที่มีใจความสมบูรณ์สองประโยคเข้าด้วยกันครับ

ตัวอย่างการใช้ and เชื่อมประโยค

จะเห็นได้ว่าเราเชื่อมประโยค Somsak is playing game กับ Somsri is learning English ผ่านการใช้ and และคอมม่า เพื่อเชื่อมสองประโยคที่มีใจความสมบูรณ์ให้เป็นประโยคเดียวครับ 

แต่บางครั้งเราก็จะเห็นนักเขียนบางคนมีการใช้ and ขึ้นต้นประโยคด้วย ซึ่งตามหลักแกรมม่าแล้วถือว่าถูกต้องครับ เพราะการใช้ and ขึ้นต้นประโยค เป็นการเน้นย้ำในไอเดียของความสอดคล้องกันมากกว่าการเชื่อมประโยคครับ 

เหตุผลที่สามารถทำแบบนี้ได้เป็นเพราะว่า ประโยคใจความสมบูรณ์ หรือ Independent clause สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาคำสันธานในการเชื่อมประโยคก็สามารถที่จะเข้าใจความหมายของประโยคแบบไม่ต้องพึ่งพาประโยคอื่นครับ

ตัวอย่างการใช้ and ขึ้นต้นประโยค

ผมคิดว่าการใช้ and เป็นพื้นฐานสำคัญมากๆ ในการช่วยให้ essay เราดูดีในสายตากรรมการครับ นอกจากนี้คำที่ใช้แทน and ก็ไม่ค่อยมีมากสักเท่าไหร่ครับ ดังนั้นฝึกการใช้ and ให้ชำนาญจะช่วยในการพัฒนาการเขียน essay ของเราได้มากเลยครับ

3) การใช้ Nor เป็น FANBOYS conjunction

การใช้ nor นั้นค่อนข้างพิเศษกว่า conjunction ตัวอื่นๆ ใน FANBOYS เพราะว่า nor มีเงื่อนไขการใช้ที่ค่อนข้างแปลกครับ

  • Nor ควรใช้เชื่อมสองประโยคที่มีความหมายเชิงลบเข้าด้วยกันได้เท่านั้น
  • เมื่อเราเชื่อมประโยคด้วย Nor เราต้องทำ Inversion ในประโยคที่สอง เพื่อให้ประโยคถูกต้องตามหลัก grammar

Inversion คือ การสลับกันระหว่างประธานกับกริยา เพื่อความชัดเจนในการสื่อสาร โดยหนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่เราทำ Inversion ก็คือเมื่อเราขึ้นต้นประโยคด้วยความหมายเชิงลบครับ ลองมาดูตัวอย่างกัน

ตัวอย่างก่อนการเชื่อมประโยคด้วย Nor
ตัวอย่างหลังการเชื่อมประโยคด้วย Nor
ตัวอย่างที่ผิด

นอกจากการใช้ nor แบบเดี่ยวๆ แล้ว สิ่งที่เราพบเจอบ่อยๆ ก็คือ การใช้ neither nor นั่นเอง โดยเราจะใช้ Neither คู่กับ nor เพื่อสื่อสารว่า “ไม่ใช่ทั้งคำนามนี้และคำนามนั้น” ครับ

ทีนี้ แล้วการใช้ nor จะช่วยให้ essay เราดูดีขึ้นขนาดไหน? ส่วนตัวผมคิดว่าดูดีขึ้นสุดๆ เลยครับ เพราะการใช้ nor นั้นสามารถส่งสัญญาณให้คนอ่านได้เห็นว่าเรามีความชำนาญในการใช้หลัก Grammar ที่ดีในการสื่อสาร และหากใช้ถูกจังหวะจะช่วยโชว์สไตล์การเขียนของเราในการนำเสนอสารต่างๆ ผ่าน essay ได้ดีเยี่ยมครับ

4) การใช้ But เป็น FANBOYS conjunction

การใช้ but เป็นอีกหนึ่ง FANBOYS conjunction ได้ใช้บ่อยที่สุดไม่แพ้กับคำว่า and เลยครับ โดยเราจะใช้ but เมื่อเราต้องการส่งสัญญาณให้เห็นถึงความขัดแย้งหรือความแตกต่างบางอย่างใน essay ของเราครับ

โดยปกติแล้ว คำว่า but เมื่อใช้เป็นคำสันธานจะแปลว่า “แต่” ครับ อย่างไรก็ดี บางครั้งเราสามารถใช้ but ขึ้นต้นประโยคได้ด้วย ตามตัวอย่างข้างล่างนี้ครับ

ตัวอย่างการใช้ but ขึ้นต้นประโยค

ถามว่าแบบนี้ถูกหลักไวยากรณ์ไหม คำตอบคือถูกนะครับ

ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าทั้งสองประโยคนี้เป็น Independent clause หรือประโยคที่มีใจความสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาประโยคอื่นเพื่อให้เข้าใจ 

ดังนั้นการใช้ but แบบนี้จึงถูกต้องตามหลัก grammar เลยครับ เพียงแต่กรณีนี้ใช้ but เพื่อเน้นความขัดแย้งของไอเดีย แต่ไม่ได้ต้องการใช้เพื่อเชื่อมประโยคนั่นเองครับ

5) การใช้ Or เป็น FANBOYS conjunction

คำว่า or กับคำว่า “หรือ” ในภาษาไทยมีความหมายเดียวกันเลยครับ เราจะใช้ or เพื่อแปลว่า “หรือ” ในการเชื่อมคำหรือประโยคเข้าด้วยกันในกรณีที่เราต้องการเขียน essay เพื่อแสดงถึงทางเลือกครับ

การใช้ or เป็น conjunction เชื่อมคำ

จะเห็นได้ว่าถ้าเราใช้ or เชื่อมคำสองคำเข้าด้วยกันจะไม่มีการใช้ comma เหมือนกับการใช้ and เลย ซึ่งเหมือนกันเลยครับการเชื่อมประโยค ถ้าเราต้องการเชื่อมประโยคใจความสมบูรณ์สองประโยคเข้าด้วยกัน อย่าลืมเติม comma นะครับ

การใช้ or เป็น conjunction แบบมี comma และไม่มี comma

การใช้ or เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่ทำให้ essay เราดูมีลูกเล่นมากขึ้นครับ แม้แนวทางในการใช้อาจจะไม่มากเท่า FANBOYS ตัวอื่น แต่ใช้ได้ถูกจังหวะจะทำให้เราโชว์สไตล์การเขียน essay ที่โดดเด่นออกมาได้ครับ

6) การใช้ Yet เป็น FANBOYS conjunction

การใช้ yet conjunction นั้น มีความเหมือนกับการใช้ but เลยครับ แต่สิ่งที่ต่างจะมีอยู่ 3 เรื่อง

  • การใช้ yet เป็น conjunction จะมีสิ่อถึงอารมณ์ของผู้เขียนมากกว่าการใช้ but ที่เน้นในการสื่อถึงคงามขัดแย้งของข้อเท็จจริงมากกว่าครับ
  • การใช้ yet แสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจมากกว่าการใช้ but
  • การใช้ yet จะมีความเป็นทางการมากกว่าการใช้ but

ส่วนตัวผมแล้ว ผมแทบจะใช้ yet กับ but แทนกันเกือบ 100% เลยครับ บางจังหวะเราอาจมีการใช้ but เยอะมากใน essay เลยทำให้เราต้องหาคำมาแทน ซึ่งการใช้ yet จึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ตัวนึงครับ

ตัวอย่างการใช้ yet เป็น conjunction

7) การใช้ So เป็น FANBOYS conjunction

So นั้นเป็น FANBOYS ที่ส่วนตัวผมใช้บ่อยที่สุด โดยเมื่อเราใช้ So เป็น conjunction มีความหมายว่า “ดังนั้น” ครับ 

โดยหลักการใช้ so เป็น conjunction ใน essay จะใช้เพื่อบอกผลลัพธ์จากการกระทำต่างๆ ครับ ทำให้เราสามารถใช้ so ได้หลากหลายบริบทมากครับ so จึงเป็น FANBOYS ที่ผมใช้บ่อยที่สุดเลยครับ 

สรุปการใช้ Fanboys conjunction

จบกันไปแล้วสำหรับหลัก Grammar ของการใช้ FANBOYS conjunction ครับ การใช้ For, And, Nor, But, Or, Yet, และ So ในการเขียน essay เป็นสิ่งที่จะช่วยให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีสไตล์และมีสไตล์ที่โดดเด่นเตะตาคนอ่าน

ผมเชื่อว่าถ้าฝึกการใช้ FANBOYS ให้ชำนาญ จะข้อสอบไหนก็ไม่หวั่นครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ครับ