หลักการใช้ Present Perfect ใช้อย่างไรพร้อมตัวอย่างประโยคและโครงสร้าง

เลือกอ่านตามหัวข้อ

จะเป็นยังไงนะ ถ้าเราสามารถเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน เพื่อออกแบบอนาคตเราได้? Present perfect tense ช่วยได้นะ!

Present Perfect Tense เป็น 1 ใน 12 Tense ที่มีความสำคัญมากๆ ไม่ว่าจะใช้กับการพูด การเขียน ไปจนถึงการสอบ

วันนี้ Jasper & Reader จะพาทุกคนมารู้จักกับ Present Perfect Tense และ

  • Present perfect ใช้ยังไง คืออะไรกันแน่
  • โครงสร้างของ Present Perfect มีอะไรบ้าง
  • ตัวอย่างประโยค Present perfect 

เรียนรู้วิธีใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อแบ่งปันเรื่องราวของเรา มาดำดิ่งและค้นพบความมหัศจรรย์ของ Present Perfect Tense ด้วยกันเลย!

Present Perfect Tense คือ

Present Perfect Tense คือ รูปประโยคที่ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วแต่ไม่ได้ระบุเวลาไว้อย่างชัดเจน หรือเหตุการณ์ในอดีตที่มีความเกี่ยวข้องมาถึงปัจจุบัน Present perfect มักใช้พูดถึงประสบการณ์ การเปลี่ยนแปลง หรือเหตุการณ์ในอดีตที่ยังส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน

ถามว่า แล้วถ้าอยากเจาะจงเวลา สามารถทำได้ไหม คำตอบคือได้ครับ เราสามารถใช้คำกำกับเวลากับ Present Perfect Tense เพื่อให้ประโยคที่เราสื่อมีความเจาะจงมากขึ้นว่าเกิดขึ้นช่วงเวลาไหน เช่น “already”, “just”, “never”, “ever”, “yet”, “for”, “since” และ  “so far” ตัวอย่างคือ

I have already eaten breakfast.

ประโยคนี้พยายามจะบอกว่า กินข้าวเช้าไปแล้วก่อนหน้านี้ไม่นาน ผ่านการใช้คำว่า already ครับ

Present Perfect has have ใช้ยังไง

Present perfect has have ใช้ยังไงขึ้นอยู่กับประธานกับประเภทอยู่ประโยคที่เราต้องการสื่อ ถ้าประธานเป็น He/She/It เราจะใช้ has แต่ถ้าประธานเป็น You/We/They เราจะใช้ have ครับ 

นอกจากนี้ Present perfect โครงสร้างประโยคจะเปลี่ยนไปตามประเภทประโยค เช่น ประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคำถาม เราลองไปดูกันเลยครับ

โครงสร้าง Present Perfect Tense

ประธาน + auxiliary verb (กริยาช่วย has/have) + Past participle (กริยาเติม ed) + [กรรม] คือโครงสร้างพื้นฐานของ Present perfect tense

Subject Be Have Do
I - have been doing
You - have been doing
He/She/It - has been doing
We - have been doing
They - have been doing

Present perfect tense โครงสร้างประโยคบอกเล่า

ประธาน + has/have + กริยาเติม ed + [กรรม/ส่วนขยายประธาน]

ประโยคบอกเล่าใน Present Perfect Tense เป็นโครงสร้างประโยคพื้นฐานที่สุดของ present perfect ครับ ใช้ในการเล่าสถานการณ์ต่างๆ

Present perfect tense โครงสร้างประโยคปฏิเสธ

ประธาน + has/have + not + กริยาเติม ed + [กรรม]

ประโยคปฏิเสธใน Present Perfect Tense ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นหรือที่ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ โครงสร้างประโยคปฏิเสธคล้ายกับประโยคบอกเล่ามากๆ ครับ แค่เราเติมคำว่า “not” หลังกริยาช่วย has/have เท่านั้นเลยครับ

Present perfect tense โครงสร้างประโยคคำถาม

Has/have + ประธาน + กริยาเติม ed + [กรรม] ?

โครงสร้างประโยคคำถาม Present Perfect Tense แตกต่างจากประโยคบอกเล่าเล็กน้อย โดยเราจะใช้กริยาช่วย (Auxiliary verb has/have) ที่จุดเริ่มต้นของประโยค ครับ

สรุป โครงสร้าง Present perfect tense 

โครงสร้างประโยค Present Perfect Tense จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประธาน และประเภทของประโยคว่าเรากำลังใช้ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม หรือประโยคปฏิเสธ แต่โครงสร้างโดยพื้นฐานคือ การใช้กริยาช่วย (have/has) ตามด้วยกริยาเติม ed ครับ 

ถ้าเข้าใจโครงสร้างประโยคของ Present Perfect Tense ในประโยคแต่ละประเภท เราจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพและสื่อความหมายที่ต้องการได้ในแบบของเราเอง ผมสรุปทั้งหมดไว้ตารางแบบนี้ครับ

ประเภท โครงสร้าง ตัวอย่าง
ประโยคบอกเล่า Subject + have/has + past participle I have eaten breakfast already. He has finished his homework.
ประโยคปฏิเสธ Subject + have/has + not + past participle I have not seen that movie. They haven't arrived yet.
ประโยคคำถาม Have/Has + subject + past participle Have you been to Paris before? Has she finished her work?

หลักการใช้ Present perfect tense ใช้ยังไง

การใช้ Present Perfect Tense เราต้องรู้โครงสร้างประโยค และ สถานการณ์ที่เหมาะกับการใช้ Present perfect ครับ เรารู้ว่าโครงสร้างพื้นฐานคือ Subject + has/have + V.ed แล้ว 

แต่สถานการณ์ที่ใช้ Present perfect ความหมายกว้างเป็นมหาสมุทรเลยทีเดียว ผมเลยสรุปมาให้ครับว่า Present perfect tense ใช้ในกรณีใด และสถานการณ์ไหนบ้าง มาดูกันเลย 

Present perfect tense ใช้ตอนไหน

Present Perfect Tense ใช้ได้กับ 5 สถานการณ์หลักๆ ได้แก่ การเล่าประสบการณ์ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาเรื่อยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน, เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตแต่ดำเนินมาถึงปัจจุบัน, เหตุการณ์ที่พึ่งสิ้นสุดไม่นานนี้ และเหตุการณ์ที่เวลาเป๊ะๆ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ รู้ไม่รู้ ก็ไม่ทำให้เกิดผลดีผลร้ายอะไร เราลองมาดูตัวอย่างกันครับ

1. บอกเล่าประสบการณ์ (Experiences)

I have seen that movie before.

ประโยคนี้คือการบอกว่า เคยมีประสบการณ์ดูหนังเรื่องนี้มาก่อนนะในอดีต ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเมื่อตะกี้นี้ แต่อาจจะช่วงไหนในอดีตก็ได้ครับ

2. ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

The climate has changed a lot in the last few decades.

I have lost my phone.

สองประโยคนี้เราใช้ Present perfect เพื่อบอกว่า 1) โทรศัพท์หายไปในอดีต และตอนนี้ก็ยังหายไปอยู่ยังหาไม่เจอครับ 2) สภาพอากาศเปลี่ยนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ได้สำคัญว่าเปลี่ยนไปในทิศทางไหน ดี หรือ ร้าย แต่ต้องการสื่อว่าระหว่างหลายปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง

3. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีต แต่ดำเนินมาถึงปัจจุบัน:

I have lived in New York for five years.

ฉันอยู่นิวยอร์คมา 5 ปีแล้ว

ประโยคนี้คนพูดพยายามจะบอกว่าตอนนี้ยังอยู่ New York และอยู่มานานถึง 5 ปีแล้ว

4. เหตุการณ์ที่เวลาเป๊ะๆ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

She has visited Paris twice

เคยไปปารีสมาแล้วสองครั้ง แต่ว่าตอนไหนนะ? ตรงนี้เป็นจุดที่แตกต่างจาก Past tense เลยครับ เรื่องเวลาในอดีตในการไปปารีสไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เราจึงใช้ Present perfect นั่นเอง

5. เหตุการณ์ที่พึ่งจบไปไม่นานนี้

I have just finished my homework.

ประโยคนี้บอกเป็นนัยยะผ่านการใช้ Present perfect ว่า ฉันทำการบ้านเสร็จแล้วนั้น พึ่งเสร็จเมื่อตะกี้นี้เลย ไม่กี่วินาที ไม่กี่นาทีที่แล้วนะ

Present perfect for and since ใช้ยังไง

การใช้ since กับ for ใน Present perfect เราใช้ 2 คำนี้เป็น Preposition ครับ โดย For ใช้เพื่อบอกช่วงเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตจนปัจจุบัน ต้องตามด้วยช่วงเวลา Duration เช่น “two years” หรือ “two months”  ในขณะที่ Since ใช้เพื่อบอกจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ต้องตามด้วยช่วงเวลาเฉพาะ เช่น วันที่ เวลา หรือเหตุการณ์

โครงสร้างประโยคการใช้ for ใน Present perfect คือ

Subject + has/have + v.ed + since + ช่วงเวลา (Duration)

โครงสร้างประโยคการใช้ for ใน Present perfect คือ

Subject + has/have + v.ed + since + จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์

เราลองมาดูตัวอย่างกัน สมมติว่าปัจจุบันคือปี 2023 นะครับ

I have been studying English for two years.

I have been studying English since 2021.

ถามว่าสองประโยคนี้ความหมายเหมือนกันไหม คำตอบคือเหมือนกันเลยครับ แต่โครงสร้างประโยคแตกต่างกันชัดเจน 

ถ้าใช้ for ใน Present perfect เราใช้ช่วงเวลาว่าผ่านมากี่วัน กี่ เดือน กี่ปี แต่ถ้า since เราใช้จุดเริ่มตอนของเหตุการณ์ เช่น ตั้งแต่ปี 2021 ตั้งแต่เดือนมกราคม นั่นเองครับ 

ผมสรุปเป็นตารางอีกทีแบบนี้ครับ แค่นี้เราก็ไม่สับสนการใช้ 2 คำนี้ใน Present perfect อีกต่อไป 

For Since
การใช้ บอกช่วงเวลาของเหตุการณ์ บอกจุดเริ่มต้นของเวลา
ต้องตามด้วย ระยะเวลา วัน/เดือน/ปี
Example I have lived here for five years. I have lived here since 2016.
They have been married for a year. They have been married since their college days.
He has been playing tennis for 2 months. He has been playing tennis since he was 10 years old.

ตัวอย่าง ประโยค Present perfect tense บอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม

เราเข้าใจพื้นฐานและความสำคัญของ Present perfect tense กันไปแล้ว ถึงเวลาที่เราจะมาดูตัวอย่าง Present perfect tense ตัวอย่างประโยค แบบตารางกันเลย

ประธาน ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเศธ ประโยคคำถาม
I I have been learning English I have not been learning English Have I been learning English?
You You have been learning English You have not been learning English Have you been learning English?
He/She/It He/She/It has been learning English He/She/It has not been learning English Has he/she/it been learning English?
We We have been learning English We have not been learning English Have we been learning English?
They They have been learning English They have not been learning English Have they been learning English?

Present perfect tense ตัวอย่างประโยคบอกเล่า

I have studied English for five years.
ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว

She has learned English grammar for two semesters.
เธอเรียนภาษาอังกฤษมาได้ 2 เทอมแล้ว

We have practiced English conversation with a tutor.
พวกเรามีฝึกการพูดภาษาอังกฤษกับติวเตอร์

Present perfect tense ตัวอย่างประโยคปฏิเสธ

I haven’t studied English recently.
ฉันไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษเลยช่วงนี้

She hasn’t learned English idioms yet.
เธอไม่ได้เรียนสำนวนภาษาอังกฤษมาก่อน

We haven’t practiced English speaking with native speakers.
พวกเรายังไม่ได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา

Present perfect tense ตัวอย่างประโยคคำถาม

Have you studied English before?
คุณเคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อนไหม

Has he learned any new English vocabulary recently?
เขาได้เรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาบ้างไหมช่วงนี้

Have we practiced English pronunciation enough?
พวกเราฝึกภาษาอังกฤษกันมามากพอรึยังนะ?

Present perfect สรุป

มาสรุปทั้งหมดกัน! Present Perfect Tense เป็น tense เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาในอดีตไม่ได้มีนัยยะสำคัญ หรือการกระทำในอดีตที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน ผ่านการใช้กริยาช่วย have หรือ has ตามด้วยกริยาเติม -ed ซึ่งสามารถใช้ได้หลากหลายสถานการณ์และช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ

อ่านต่อเลย ถ้าอยากเข้าใจเรื่อง Present Tense