Grammar 12 Tense อย่างละเอียด
จำง่าย เข้าใจเป็นภาพ พื้นฐานแน่นหลังอ่านจบ

เขียนและออกแบบโดย

12 Tense คืออะไร ?

12 Tense มีความสำคัญอย่างมากในภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การเขียน ไปจนถึงการพูด เพราะหากไม่มี Tense เราจะไม่สามารถเล่าเรื่องเป็นภาษาอังกฤษให้คนอื่นเข้าใจได้เลยว่าอะไรเกิดขึ้นก่อนหลัง อันไหนเป็นอดีต ปัจจุบัน อนาคต
หลายๆ คนมีปัญหากับการเรียน Tense เป็นอย่างมากเพราะในภาษาไทยไม่มีเรื่อง Tense นั่นเอง และเป็นเหตุผลที่ผมพยายามที่จะทำให้การเรียนรู้ 12 Tense ง่ายมากขึ้นผ่านการเรียนเป็นภาพครับ

12 Tense มีความสําคัญอย่างไร ?

12 Tense มีความสำคัญอย่างมากในภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การเขียน ไปจนถึงการพูด
หากไม่มี 12 tense เราจะไม่สามารถสื่อสารบริบทต่างๆ ในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ให้คนอื่นเข้าใจได้เลย
Tense ในภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่ไม่มีภาษาไทยครับ ซึ่งทำให้หลายๆ คน (รวมถึงผมเอง) ค่อนข้างมีปัญหากับการเรียนเรื่อง Tense พอสมควร สิ่งที่ผมทำคือ ลองนึกภาพว่า ถ้าวันนึงเราไม่มีคำ เช่น "แล้ว", "กำลัง" หรือ "พึ่ง" เราจะไม่เข้าใจสิ่งที่คนอีกคนนึงอยากบอกเรา หรือสิ่งที่เราอยากบอกอีกคนนึงได้เลย
เอมิลี่ฟังเพลง
หรือ กำลังฟังเพลง ?
เอมิลี่กำลังทำงาน
หรือ พึ่งทำงานเสร็จ ?
เอมิลี่กำลังแปรงฟัง
หรือ แปรงฟันไปแล้ว ?

โครงสร้างของ 12 Tense มีอะไรบ้าง ?

โครงสร้างของ 12 Tense แบ่งออกเป็น 3 Tense คือ Present Tense, Past Tense และ Future Tense ซึ่งในแต่ละ Tense จะถูกแบ่งออกเป็น 4 aspect ได้แก่ Simple. Continuous, Perfect และ Perfect Continuous เมื่อรวมกันจะได้ทั้งหมด 12 Tense นั่นเอง
เข้าใจโครงสร้างของ 12 Tense ผ่านเรื่องราวของเอมิลี่ เลื่อนดูเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
1
Past Perfect Continuous
Emily had been working
on a project for 2 hours at a coffee shop.
เอมิลี่ทำโปรเจ็คนี้อย่างเหน็ดเหนื่อยมาหลายอาทิตย์ในร้านกาแฟ
2
Past Perfect
However, she realized
she had made a mistake, so she went to see her boss.
อย่างไรก็ดี เธอนึกขึ้นได้ว่าเธอทำงานผิดพลาด เธอเลยไปหาหัวหน้า
3
4
Past Continuous & Past Simple
When Emily arrived at the office,
her boss was working but not in a good mood.
เมื่อเอมิลี่ไปถึงออฟฟิศ หัวหน้าของเธอกำลังทำงานอยู่ แต่อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก
So what happended ?
เกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นละ ?
5
Present Continuous
Emily is still working here. Her boss understands and forgives her. Emily appreciated her boss for that.
เอมิลี่ยังคงทำงานที่นี่ หัวหน้าเธอเข้าใจและให้อภัย และเอมิลี่ก็ตื้นตันกับการกระทำของหัวหน้ามากๆ
6
Present Perfect
Emily has made several mistakes. And she knows that there is a chance she will make mistakes in the future because nobody is perfect.
เอมิลี่เคยทำผิดพลาดหลากหลายครั้ง และเธอรู้ว่ามีโอกาสที่เธอจะทำผิดพลาดในอนาคตเพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
7
Present Perfect Continuous
Emily has been working
here for 5 years.
เอมิลี่ทำงานที่นี่มา 5 ปีแล้ว
8
Present Simple
And she improves every time she makes a mistake.
และเธอเก่งขึ้นทุกๆ ครั้งที่เธอทำผิดพลาด
So what is the Emily's future ?
แล้วอนาคตของเอมิลี่จะเป็นยังไงต่อไป
9
Future Simple
Emily will work for money to travel around the world
เอมิลี่จะเก็บเงินเยอะๆ เพื่อไปเที่ยวรอบโลก
10
Future Perfect Continuous
By 20xx, Emily will have been working here for long enough to have a lot of money.
ในปี 20xx เอมิลี่จะทำงานที่นี่มานานพอที่จะมีเงินเที่ยวรอบโลก
11
Future Perfect
At that time, Emily will have saved a lot of money.
และเมื่อถึงเวลานั้น เอมิลี่น่าจะเก็บเงินได้เยอะสุดๆ แล้ว
12
Future Continuous
With that much money, Emily will be travelling around the world
และด้วยเงินที่มากโขนั่น เอมิลี่น่าจะกำลังเที่ยวรอบโลกอยู่แน่ๆ
Past
Present
Future

Present Tense

Present Tense เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ยังส่งผลมาถึงปัจจุบัน เช่น เอมิลี่อาศัยอยู่ที่กรุงเทพมาตั้งแต่ปี 2010 แล้วนะ (ปัจจุบันก็ยังอยู่กรุงเทพ) ไปจนถึงข้อเท็จจริงและกิจวัตรประจำวันที่เราทำอยู่ครับ
Present Tense แบ่งออกได้เป็น 4 aspects ได้แก่

1. Present Simple Tense

Present Simple Tense คือ Verb tense ที่ใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวปัจจุบัน เป็น 1 ใน 12 tense พื้นฐานที่ทุกคนต้องเจอ และเป็นหัวข้อแรกที่เราเจอเมื่อเราเรียนเรื่อง Tense เลยครับ

สิ่งที่หลายๆ คนจะสับสนมากๆ คือ การใช้ Verb ใช่ไหมครับ ว่าสรุปแล้ว การใช้ is am are และ การใช้ do does มันต่างกันยังไง มันคือ Verb ใช่ไหม? คำตอบคือเป็นหนึ่งในประเภทของ Verb ครับ โดยเราจะเรียกมันว่ากริยาช่วย ซึ่งเราจะใช้คู่กับกริยาหลักที่สามารถผันรูปได้ (กริยาช่องที่ 1 2 3 นั่นเอง) 

โครงสร้าง Present Simple Tense

ประธาน + กริยาช่องที่ 1

Present Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

ข้อเท็จจริง
กำหนดการ
กิจวัตรประจำวัน
1
ข้อเท็จจริงทั่วไป
The sun always rises in the east.
พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเสมอ
2
กำหนดการ
The bus arrives at the station every hour.
รถเมล์มาถึงสถานีทุกๆ ชั่วโมง
3
กิจวัตรประจำวัน
I brush my teeth everyday.
ฉันแปรงฟังทุกวัน

2. Present Continuous Tense

Present Continuous Tense เป็นหนึ่งใน 12 tense ที่ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด รวมถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่วางไว้ล่วงหน้าด้วย

ซึ่งทำให้ Present Continuous เป็น Tense ที่หลายๆ คนมักจะสับสนกับ Future Tense ครับ เพราะสับสนว่าเวลาพูดถึงอนาคตแบบไหนใช้ Present Continuous และแบบไหนใช้ Future Tense ครับ

โครงสร้าง Present Continuous Tense

ประธาน + is/am/are + กริยาเติม ing

Present Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
เหตุการณ์อนาคตที่วางไว้ล่วงหน้า
1
เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
Emily is still working here.
เอมิลี่ยังคงทำงานอยู่ที่นี่
2
เหตุการณ์อนาคตที่วางไว้ล่วงหน้า
The company is launching new product next month
บริษัทกำลังจะเปิดตัวสินค้าใหม่เดือนหน้า

3. Present Perfect Tense

Present Perfect Tense เป็น tense ที่ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่มีความเกี่ยวข้องหรือส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน โดยไม่เน้นย้ำเรื่องของเวลามากนัก มักมีการใช้ since กับ for อยู่บ่อยๆ เมื่อใช้ Present Perfect ครับ

Present Perfect เป็น 1 ใน 12 tense ที่น่าปวดหัวในระดับนึงเลยครับ โดยเฉพาะคนที่เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ และออกข้อสอบบ่อยมาก เพราะ Present Perfect เป็น Tense ที่คาบเกี่ยวกับ Past tense พอสมควร ทำให้หลายๆ คนเจอมึนอยู่บ่อยๆ เมื่อเจอ Tense นี้ครับ

โครงสร้าง Present Perfect Tense

ประธาน + has/have + กริยาช่องที่ 3

Present Perfect Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

1
เหตุการณ์ที่ดำเนินมาเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
Emily has been a marketer since 2012
เอมิลี่เป็นนัการตลาดตั้งแต่ปี 2012
แต่ถ้าเราเปลี่ยนประโยคจาก Since 2012 เป็นอย่างอื่น เช่น "Emily has been a marketer since she graduted" จะเห็นว่า Verb ที่ตามหลัง since จะเป็น Past Simple นั่นเอง
2
เหตุการณ์จบไปในอดีต แต่ยังส่งผลถึงตอนนี้
Emily has just cleaned her room.
เอมิลี่พึ่งทำความสะอาดห้องเสร็จ
เหตุการณ์ที่เอมิลี่ทำความสะอาดนั้นจบไปแล้ว แต่ผลลัพธ์ "ความสะอาดของห้อง" ยังคงอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
นอกจากนี้ การใช้ just หรือ recently ซึ่งแปลว่า "พึ่ง" "เมื่อเร็วๆ นี้" ใน Present Perfect จะหมายถึงการเน้นย้ำว่าเหตุการณ์พึ่งจบไปเมื่อเร็วๆ นี้นั่นเอง
3
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในอดีต แต่ลามมาถึงปัจจุบัน
Emily have had three test so far this semester.
เอมิลี่สอบมาแล้วสามครั้งในเทอมนี้
การใช้ Present Perfect ในลักษณะนี้การบอกว่า เอมิลี่สอบมาแล้ว 3 ครั้งตั้งแต่เปิดเทอม แต่ไม่แน่ชัดว่าเวลาไหนในเทอม และมีแนวโน้มว่าจะมีการสอบครั้งที่ 4 เกิดขึ้นในปัจจุบันด้วยนะ (เอมิลี่แย่แล้ว!)
ฉันไม่เคยเห็น แต่เอมิลี่เคยเห็นหิมะอยู่นะ
ฉันยังทำกการบ้านไม่เสร็จเลย แต่เอมิลี่ทำการบ้านเสร็จแล้ว
4
เหตุการณ์ที่เคย (หรือ ไม่เคย) เกิดขึ้นมาก่อน
Q: Have you ever seen snow in Thailand?
A: No, I have not. I have never seen snow. But Emily has seen snow.
คุณเคยเห็นหิมะในเมืองไทยบ้างไหม? ไม่ ฉันไม่เคยเห็น แต่เอมิลี่เคยเห็นหิมะอยู่นะ
Q: Have you finished your homework yet? I have not finished mine, but Emily has already finished her.
คุณทำการเสร็จรึยังไง? ฉันยังทำของฉันไม่เสร็จเลย แต่เอมิลี่ ทำเสร็จแล้วนะ
ตัวอย่างนี้ เราไม่รู้เลยว่าการทำการบ้านถูกเริ่มเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ การบ้านยังไม่เสร็จ ส่วนการบ้านของเอมิลี่นั้นเสร็จแล้ว แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเสร็จเวลาไหนในอดีต อาจจะ 10 วันที่แล้ว หรือเมื่อวานนี้ และนี่คือรูปแบบของการใช้ Present Perfect นั่นเองครับ เวลาที่ไม่แน่นอนในอดีต ที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน

4. Present Perfect Continuous Tense

Present Perfect Continuous Tense เป็น 1 ใน 12 tense ภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เริ่มขึ้นในอดีตและยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน และยังมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปอีกด้วย

ผมคิดว่า Present Perfect Continuous เป็น tense ที่หลายๆ คนมักใช้สลับกันไปกับ Present Perfect เลยครับ เพราะดูๆ แล้วมันก็เหมือนกันๆ นี่หน่า ใช่ไหม?

จริงๆ แล้วสิ่งที่แตกต่างของ Present Perfect Continuous คือ การเน้นย้ำเรื่องเวลาครับ เราลองมาดูตัวอย่างกัน

โครงสร้าง Present Perfect Continuous Tense

ประธาน + has/have + been + กริยาเติม ing

Present Perfect Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

เอมิลี่นั่งอยู่ที่โต๊ะตั้งแต่ 7 โมงแล้ว
1
เหตุการณ์ที่ดำเนินมาเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (เน้นย้ำเรื่องเวลา)
1. Right now I am sitting at my desk. (Present Continuous)
ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะของฉัน
2. Emily have been sitting at my desk since seven o'clock. (Present Perfect Continuous)
เอมิลี่นั่งอยู่ที่โต๊ะของฉันตั้งแต่ 7 โมงแล้ว
ตัวอย่างทั้งสองอันนี้ แม้จะพูดถึงเรื่องการนั่งบนโต๊ะเหมือนกัน แต่เมื่อใช้ Tense ต่างกัน ความหมายก็เปลี่ยนไปสุดๆ เลยใช่ไหมครับ
ตัวอย่างแรกเราใช้ Present Continuous เพื่อบอกว่า "กำลังนั่งอยู่" แต่ตัวอย่างที่สองใช้ Present Perfect Continuous เพื่อเน้นย้ำเรื่องเวลาว่า "กำลังนั่งอยู่ และนั่งมาตั้งแต่ 7 โมงแล้วนะ! และมีแนวโน้มว่านั่งต่อไปอีก
และถ้าเป็น Present Perfect การนั่งที่โต๊ะตั้งแต่ 7 โมง จะไม่ใช่เหตุการณ์ต่อเนื่อง ระหว่างช่วง 7 โมงถึงปัจจุบัน อาจจะมีไปทำอย่างอื่นบ้าง แต่ Present Perfect Continuous เน้นย้ำเรื่องเวลาและความต่อเนื่องกว่านั่นเอง บอกชัดเจนว่านั่งตั้งแต่ 7 โมง และยังนั่งอยู่ ไม่ได้ไปไหน

Past Tense

Past Tense เป็น tense ที่ใช้เล่าเรื่องราวในอดีต ไม่ว่าจะเป็นรักแรกที่เจ็บช้ำ ความรู้สึกสุดพิเศษที่สอบติดมหาลัยในฝัน หรือ วันวานที่ได้รับคำชมจากหัวหน้าว่าทำงานได้ดีมาก ทั้งหมดล้วนใช้ Past Tense ในการเล่าเรื่องทั้งสิ้นครับ

Past Tense แบ่งออกได้เป็น 4 aspects ได้แก่

1. Past Simple Tense

Past Simple Tense บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เรียกได้ว่าคอนเซ็ปการใช้คล้ายกับ Present Simple เพียงแค่อยู่ในรูปแบบอดีตเท่านั้นเองครับ

Past Simple เป็น 1 ใน 12 tense ที่ใช้บ่อยพอๆ กับ Present Simple และเจอในข้อสอบบ่อยมากๆ ครับ ซึ่งปัญหาที่เจอกันบ่อยๆ คือ เรื่อง Irregular Verb ซึ่งเป็นคำกริยาที่ไม่เมื่อผันรูปแล้วไม่ได้เติม ed เหมือนกริยาปกติเช่น eat, ate, eaten นั่นเองครับ

นอกจากนี้การใช้ was were ยังเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราต้องเข้าใจครับ เพราะ was were มักจะถูกจำสับสนว่าเป็นคำกริยาแบบปกติ แต่จริงๆ แล้วเป็นกริยาช่วยนั่นเอง

Past Simple Tense มักจะมีคำอย่าง Yesterday (เมื่อวานนี้), Three days ago (เมื่อสามวันที่แล้ว), the other day (เมื่อวันก่อน), last night (เมื่อคืน), last month (เมื่อเดือนก่อน), in 1996 (เมื่อปี 1996)

โครงสร้าง Past Simple Tense

ประธาน + กริยาช่องที่ 2

Past Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

กิจวัตรประจำวันที่เกิดขึ้นในอดีตซ้ำๆ
เหตุการณ์ที่เกิดและจบในอดีต
1
กิจวัตรประจำวันที่เกิดขึ้นในอดีตซ้ำๆ
Emily always went to theme park in my childhood
เอมิลี่มักจะไปสวนสนุกเสมอตอนเด็กๆ
2
เหตุการณ์ที่เกิดและจบในอดีต
Emily went ouside yesterday.
เมื่อวานนี้เอมิลี่ไปข้างนอก

2. Past Continuous Tense

Past Continuous Tense เป็น tense ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตและเกิดขึ้นมาซักพัก ซึ่งเรามักจะเห็น Past Continuous ถูกใช้คู่กับ Tense อื่นๆ ใน Past Tense อยู่บ่อยๆ ครับ

โครงสร้าง Past Continuous Tense

ประธาน + was/were + กริยาเติม ing

Past Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตและเกิดขึ้นมาซักพัก
ใช้เทียบกับอีกสถานการณ์ในอดีต
1
เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต
Yesterday, Emily was feeling anxious about her work.
เมื่อวานเอมิลี่กำลังเครียดกับงานของเธออยู่
2
ใช้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน
When Emily arrived at the office,
her boss was working but not in a good mood.
เมื่อเอมิลี่มาถึงออฟฟิศ หัวหน้าเธอกำลังทำงานอยู่ด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก
เราสามารถใช้ Past Continuous Tense คู่กับ Past Simple Tense (หรือ Past Continuous Tense ด้วยกัน) เหมือนตัวอย่างนี้ในการเล่าเรื่องที่มีสองเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมๆ กันแบบนี้ได้ครับ
เราใช้ Past Simple เพื่อบอกว่ามีเอมิลี่มาถึงออฟฟิศแล้วนะ ซึ่งมาคั่นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น คือ หัวหน้าของเธอกำลังทำงานอยู่นั่นเอง

3. Past Perfect Tense

ถ้าอยากเล่าเรื่องในภาษาอังกฤษให้คนฟังเข้าใจ สิ่งที่สำคัญมากๆ เลยคือลำดับของเนื้อเรื่องใช่ไหมครับ ว่าอะไรเกิดก่อนเกิดหลัง

และถ้าเราใช้แค่ Past Simple หรือ Past Continuous เช่น I was eating pizza. I finised my homework สรุปแล้วเหตุการณ์ไหนเกิดก่อน?

และนี่เองเป็นจุดที่ Past Perfect เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเล่าเรื่องของเราครับ

Past Perfect Tense เป็น Tense อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตก่อนที่อีกเหตุการณ์นึงจะเกิดขึ้น ซึ่งนั่นทำให้เรารู้ว่าเหตุการณ์ไหนเกิดก่อนเหตุการณ์ไหนเกิดหลังนั่นเอง ถ้าใช้ Past Perfect แปลว่าเหตุการณ์นี้เกิดก่อน Past Simple และ Past Continuous นั่นเอง

แต่ถ้าเราไม่อยากใช้ Past Perfect ในการเล่าเรื่องละก็ เราสามารถใช้ Before หรือ After แทนได้ครับ

โครงสร้าง Past Perfect Tense

ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3

Past Perfect Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

1
ใช้ร่วมกับอดีตที่เกิดหลังจากนั้น
Emily realized she had made a mistake
เอมิลี่นึกได้ว่าเธอทำงานผิดพลาด
เหตุการณ์ที่เอมิลี่ทำงานผิดพลาดเกิดขึ้นก่อนและจบลงไปแล้ว (แต่เอมิลี่ไม่รู้ตัว) เราจึงใช้ Past Perfect ครับ แต่ต่อมาเอมิลี่นึกขึ้นได้ว่าเธอทำงานผิดพลาด เราจึงใช้ Past Simple นั่นเอง

4. Past Perfect Continuous Tense

Past Perfect Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและดำเนินอย่างตอเนื่องในอดีตก่อนอีกเหตุการณ์นึงจะเกิดขึ้น

สิ่งที่ทำให้ Past Perfect Continuous แตกต่างจาก Past Perfect คือเรื่องของความต่อเนื่องและระยะเวลาครับ

Past Perfect เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดในอดีตก่อนจะเกิดอีกเหตุการณ์นึงขึ้น แต่ Past Perfect Continuous เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่อีกเหตุการณ์จะเกิดต่อมา

โครงสร้าง Past Perfect Continuous Tense

ประธาน + had + been + กริยาเติม ing

Past Perfect Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

1
ใช้ร่วมกับอดีตที่เกิดหลังจากนั้น (เน้นย้ำเวลาและความต่อเนื่อง)
Emily had been working on a project at a coffee shop for 2 hours. However, she realized she had made a mistake.
เอมิลี่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยที่ร้านกาแฟเป็นเวลาสองชั่วโมง แต่เธอนึกขึ้นได้ว่าเธอทำงานผิดพลาด
เหตุการณ์เอมิลี่ทำงานที่ร้านกาแฟ 2 ชั่วโมงนั้นเกิดก่อนที่เธอจะนึกได้ว่าเธอทำงานผิดพลาด ถ้าเรามองเป็นไทม์ไลน์ เราจะเห็นว่าเหตุการณ์เอมิลี่ทำงานที่ร้านกาแฟใช้ Past Perfect Continuous แสดงถึงความต่อเนื่องและจุดเวลาอย่างชัดจน
แต่เหตุการณ์ที่เอมิลี่ทำงานผิดพลาด ไม่รู้เวลาแน่ชัด แต่เราพอจะเดาได้ว่าน่าจะอยู่ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เราจึงใช้ Past Perfect และสุดท้าย เหตุการณ์ที่เอมิลี่นึกขึ้นได้ว่าเธอทำงานผิดพลาดใช้ Past Simple นั่นเองครับ

Future Tense

Future Tense เป็น tense ในภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่อเล่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นความฝันในการเป็นเจ้าของกิจการ สอบติดมหาลัย หรือไปเที่ยวรอบโลกเหมือนเอมิลี่

Future Tense มี 4 aspects ได้แก่

1. Future Simple Tense

Future Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยไม่มีการกำหนดเวลาหรือเงื่อนไขเฉพาะ

ซึ่งทำให้เป็น Tense ที่ใช้บ่อยที่สุดสำหรับผมเวลาพูดถึงเรื่องอนาคตครับ (แถม Future Tense ตัวอื่นๆ ก็ใช้ยากเย็นกว่ามากๆ ด้วย)

โครงสร้าง Future Simple Tense

ประธาน + will + V.infinitive (กริยาช่องที่ 1)

Future Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

คาดการณ์อนาคต
ข้อเท็จจริงในอนาคต
1
คาดการณ์อนาคต
She will work on a project tomorrow
เธอน่าจะทำงานโปรเจคในวันพรุ่งนี้
2
ข้อเท็จจริงในอนาคต
The sun will rise tomorrow at 6:30 AM.
พระอาทิตย์จะขึ้นพรุ่งนี้เวลา 6.30

2. Future Continuous Tense

Future Continuous Tense เป็น Tense ในภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่จะกำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ส่วนตัวผมคิดว่า Future Continuous Tense ใช้ตอนที่เราอยากเล่าเรื่องราวอนาคตแบบที่เห็นภาพมากขึ้น เช่น อีก 10 ข้างหน้า เรากำลังจะทำอะไร เรากำลังจะบริหารกิจการ 1,000 ล้านของเรา เป็นต้นครับ

โครงสร้าง Future Continuous Tense

ประธาน + will + be + กริยาเติม ing

Future Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

1
เหตุการณ์ที่กำลังจะทำอะไรบางอย่างในอนาคต และบอกเวลาแน่นอน
Emily will be travelling around the world
เอมิลี่น่าจะกำลังเที่ยวรอบโลกอยู่

3. Future Perfect Tense

Future Perfect Tense เป็น tense ในภาษาอังกฤษที่ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือสิ้นสุดในอนาคตก่อนเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต

Aspect ของ Perfect ใน Future Tense ค่อนข้างยากที่จะเข้าใจและใช้ยากมากๆ สำหรับผม ผมเลือกใช้ Future Simple และ Future Continuous แทนซะส่วนใหญ่ครับ

แต่หลักๆ แล้ว Future Perfect Tense คล้ายๆ กับ Past Perfect Tense คืออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์นึงในอนาคตครับ

โครงสร้าง Future Perfect Tense

ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3

Future Perfect Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

1
เหตุการณ์ที่เกิดจากจุดหนึ่งและจะไปจบ ณ จุดหนึ่งในอนาคต
I will save a lot of money in June. I will see Emily in July. At the time I see you, I will have saved a lot of money.
ฉันจะออมเงินได้เยอะสุดๆ ในเดือนมิถุนายน และฉันจะเจอเอมิลี่ในเดือนกรกฏาคม และเมื่อถึงเวลานั้น ฉันน่าจะเก็บเงินได้เยอะแล้ว
เหตุการณ์ออมเงินเกิดขึ้นก่อน และเมื่อถึงเดือนกรกฏาคม เราพูดย้อนถึงเหตุการณ์การออมเงินในเดือนมิถุนายน เราจะใช้ Future Perfect เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นั่นเอง

4. Future Perfect Continuous Tense

Future Perfect Continuous Tense เป็น Tense ในภาษาอังกฤษที่ใช้เล่าเหตุการณ์ในอนาคตที่กำลังดำเนินอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต

ผมคิดว่าประโยคที่ใช้ Future Perfect Continuous Tense เป็นเหมือนกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เมื่อเราเริ่มต้นทำสิ่งใดสิ่งนึงอย่างต่อเนื่องในอนาคตครับ

เช่น At 9.00 P.M., Emily will have been sleeping for 2 hours.  ตอน 3 ทุ่ม เอมิลี่น่าจะกำลังนอนอได้ประมาณ 2 ชั่วโมงแล้ว (แปลว่าเอมิลี่เริ่มนอนตอน 7.00 P.M. นั่นเอง)

โครงสร้าง Future Perfect Continuous Tense

ประธาน + will + have + been + กริยาเติม ing

Future Perfect Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ไหนบ้าง ?

1
เหตุการณ์ที่เกิดจากจุดหนึ่งและดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไปถึง ณ จุดหนึ่งในอนาคต
By 20xx, Emily will have been working here for long enough to have a lot of money.
ในปี 20xx เอมิลี่น่าจะกำลังทำงานอยู่ที่นี่นานพอที่จะเก็บเงินได้มากพอแล้ว
เหตุการณ์ที่เอมิลี่เริ่มต้นทำงานเกิดขึ้นก่อน ซึ่งในตอนนั้นเอมิลี่น่าจะยังเก็บตังได้ไม่เยอะ แต่เมื่อถึงปี 20xx เอมิลี่จะมีตังเก็บมากพอแล้วนั่นเอง เราจึงใช้ Future Perfect Continuous Tense นั่นเอง

สรุป 12 Tense

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ ทั้ง 12 Tense ผมได้อธิบายและยกตัวอย่างอย่างละเอียดให้ทุกคนได้เข้าใจการใช้งานของแต่ละ Tense ผ่านการใช้ภาพและตัวอย่างประโยคต่างๆ และสามารถนำไปสื่อสารได้อย่างถูกต้อง
ในบางทีเราอาจจะชินกับหลักการใช้ภาษาไทย ซึ่งแตกต่างกับการเรียนภาษาอังกฤษอยู่มากเลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงควรจะฝึกฝนการใช้ Tense ในรูปแบบประโยคที่หลากหลายเพื่อให้เข้าใจบริบทและความหมายอย่างถ่องแท้
วัยเรียนก็สามารถนำไปปรับใช้การเรียน การสอบได้ ส่วนใครที่อยู่ในวัยทำงานก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการสื่อสารทางธุรกิจได้ และ ทำให้ การสื่อสารเป็นไปได้อย่างเข้าใจกันมากขึ้น หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ครับ
ป.ล. บทความนี้จะมีการปรับปรุงเรื่อยๆ ถ้าชอบไม่ชอบตรงไหน สามารถ Comment ได้เลยนะครับ
เขียนและออกแบบโดย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *