หลักการเขียน Essay Writing ประสบการณ์จริง กับ 7 ทริค พิชิต IELTS 7 !

เลือกอ่านตามหัวข้อ

การเขียน Essay คืออะไร ?

Essay คือ การเขียนเรียงความภาษาอังกฤษเพื่อเล่ามุมมองของผู้เขียนต่อหัวข้อที่สนใจ

แต่การเขียน essay ใน IELTS ไม่เหมือนกับการเขียน essay โดยทั่วไปครับ เพราะ ความเป็นวิชาการ หรือที่เรียกกันว่า academic ของ ielts ทำให้สไตล์การเขียนเราจะดูเป็นวิชาการ เหมือนเจ้าหมีพูข้างล่างนี้ครับ

การเขียน Essay มีกี่แบบ

  1. Narrative Essay : เรียงความภาษาอังกฤษที่เน้นการเล่าเรื่องราว หรือเล่าประสบการณ์ส่วนตัว โดยมักจะมีลักษณะของเรื่องราวที่มีเนื้อหาตามลำดับเหตุการณ์
  2. Descriptive Essay : อธิบายลงลึกเกี่ยวกับหัวข้อที่ให้มาอย่างละเอียด เช่น อธิบายเกี่ยวกับกราฟ แผนที่
  3. Expository Essay : เป็นการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่มีการใส่ความคิดเห็นหรือทัศนะของเราลงไป
  4. Argumentative Essay : เน้นการตั้งข้อโต้แย้งกับหัวข้อที่ได้มา โดยใช้หลักฐานและเหตุผลเพื่อสนับสนุนเหตุผลและความคิดเห็น จุดประสงค์คือเพื่อสร้างเหตุผลและโต้ตอบในเรื่องนั้นๆ
  5. Compare and Contrast Essay :  เรียงความภาษาอังกฤษที่ให้เราเปรียบเทียบสองสิ่งจากหัวข้อที่ให้มา
  6. Cause and Effect Essay : เรียงความภาษาอังกฤษที่อธิบายเกี่ยวกับสาเหตุและผลของหัวข้อที่ให้มา
  7. Process Essay : เรียงความภาษาอังกฤษที่ขั้นตอนเกี่ยวกับหัวข้อที่ให้มา
  8. Definition Essay : เน้นการอธิบายความหมายของคำอย่างลงลึก เช่น Learning คืออะไร ความหมายแบบลงลึก
  9. Agree / Disagree Essay : การเขียน essay แบบ “เห็นด้วย” หรือ “ไม่เห็นด้วย” กับหัวข้อที่ได้มา

แต่ใน IELTS Essay จะมี 2 tasks คือ Process Essay กับ Descriptive Essay ครับ เช่น ให้อธิบายกราฟให้ฟัง อธิบายขั้นตอนการทำงานของภาพที่ให้มา หรือให้บอกทางในการไปที่ต่างๆ ในแผนที่ 

ส่วน IELTS Task 2 จะมีอยู่หลักๆ 5 ประเภท คือ 

  1. Agree / Disagree 
  2. Discussion Both side
  3. Advantage / Disadvantage
    • Advantage / Disadvantage
    • Outweigh
  4. Direct question
  5. Solution
    • Solution Only
    • Cause Solution
    • Problem Solution

แม้ Essay จะมีหลากหลายประเภท แต่องค์ประกอบหลักๆ นั้นมีเหมือนกันแทบ 100% ครับ จะมีอะไรไปดูกัน

การเขียน Essay ประกอบด้วยอะไรบ้าง ?

การเขียน Essay writing ประกอบไปด้วยกี่ส่วนหลักๆ ? การเขียน essay ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักได้แก่ บทนำ (Introduction), เนื้อหา (Body) และ บทสรุป (Conclusion ) ซึ่งแต่ละส่วนจะมีอะไรบ้างไปดูกัน

1. Introduction

การเขียน Introduction คือ การเกริ่นนำ essay ภาพรวมของเราครับ ซึ่งมักจะขึ้นต้นด้วย Hook หรือ หมัดเด็ดมัดใจให้คนอ่านสนใจ 

แต่สำหรับการสอบ IELTS ผมจะแนะนำว่าให้ขึ้นต้นการเขียน essay writing ด้วยข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหัวข้อที่เขียนครับ เช่น 

In today’s fast-paced and interconnected world, the need for sustainable development and environmental conservation has gained paramountimportance.

ในโลกที่เชื่อมต่อกันและดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ความต้องการด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ได้รับความสำคัญขึ้นอย่างมหาศาล

อีกหนึ่งส่วนของ essay introduction คือ Thesis statement ครับ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่กำหนดทิศทางการเขียน body essay ของเราทั้งหมดเลยครับ 

องค์ประกอบนี้จะสำคัญมากๆ กับ IELTS Writing Task 2 ที่ต้องการคำตอบต่อหัวข้อ Essay ที่ข้อสอบให้มา ถ้าเราอ้างอิงจากตัวอย่างด้านบน Thesis statement ของ Essay เราอาจจะหน้าตาประมาณนี้ครับ

Given the undeniable significance of environmental conservation in our interconnected world, it is imperative for individuals, communities, and governments to prioritize sustainable development, adopt eco-friendly practices, and actively participate in preserving and protecting our natural resources for a more sustainable and resilient future.

ดังนั้นมันจึงสำคัญมากๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นปัจเจกบุคคล สังคม ไปจนถึงรัฐบาลที่ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาความยั่งยืน นำแนวทางปฏิบัติเพื่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ และมีส่วนร่วมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ถามว่า Introduction ที่มีเกริ่นนำ กับ Thesis statement ต้องยาวขนาดนี้ไหม ผมว่าไม่จำเป็นครับ ถ้าเป็น IELTS สัก 40 – 60 คำ (แต่ถ้า GRE ควรมากกว่านั้น) เอาแบบสั้นๆ ได้ใจความ เพราะคะแนนหลักๆ จะมาจากส่วน Body นั่นเอง

2. Body

ส่วนนี้ผมว่ายากที่สุดครับ ทิศทางการเขียน Body ของเราถูกกำหนดไว้ 2 องค์ประกอบใหญ่ๆ คือ Thesis statement และ ประเภทของ Essay ครับ 

ถ้าเป็น Opinion Essay แนวทางการเขียนจะเป็นอีกแบบ ถ้าเป็น Process Essay ก็จะอีกแบบ แต่ไม่ว่าจะ Essay ประเภทไหน เราจะต้องเขียนสิ่งที่เราเรียกว่า “Paragraph” ซึ่งการเขียน essay ในส่วน body ในข้อสอบ IELTS นั้น หนึ่ง Paragraph จะต้องมีทั้งหมด 3 ส่วนครับ ได้แก่ 

  • Supporting Sentence
  • Concluding Sentence

Topic sentence มักเป็นประโยคแรกของ Paragraph ซึ่งบอกว่าไอเดียของ Paragraph นั้นๆ คืออะไร และส่วนที่สองคือ Supporting sentence เป็นบรรทัดที่ใช้ในการเล่าถึงข้อมูล หลักฐาน หรือแนวคิดต่างๆ ที่สนับสนุน Topic sentence ครับ สุดท้ายคือ Concluding Sentence เป็นการสรุปใจความสำคัญของเนื้อเรื่องทั้งหมด เพื่อย้ำให้กรรมการเข้าใจอีกรอบว่าบทความมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับอะไร

3. Conclusion

ถ้าเรามาถึงส่วนนี้ ผมว่าง่ายแล้วครับ สิ่งที่เราต้องทำคือ พูดถึง Thesis statement และ Topic sentence แบบสรุปรวบรวด ไม่ต้องมากบรรทัด

ส่วนสำคัญที่สุดของการเขียน Essay คืออะไร

การเขียน Paragraph เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และ ยากที่สุด ของการเขียน Essay เลยสำหรับผม ซึ่งความยากเกิดจากความยากของการเขียน Paragraph และการวาง Logic ครับ แถมยังเป็นสิ่งที่เสียเวลามากๆ ด้วย แต่ถ้าไม่ทำ จะได้คะแนนสูงก็ค่อนข้างยากเลย ลองมาดูรายละเอียดในแต่ละอันกัน

1. Sentence & Paragraph

ความเข้าใจเกี่ยวกับ “ประโยค” และ “การเขียนย่อหน้า” เป็นเรื่องที่หลายคนไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก 

เราเรียนโครงสร้าง เราเรียนวิธี paraphrase เรียนทริคต่างๆ มากมาย แต่สุดท้ายมาตกม้าตายเพราะเขียนผิด tense ไปจนถึงเขียนผิดหลักไวยากรณ์ ทำให้กรรมการอ่านไม่เข้าใจ (และมีเหตุผลในการให้คะแนนเราน้อยลง)

ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่ายากยังไง ลองดูประโยคนี้ครับ

The book I borrowed from the library last week.

แบบนี้ผิด Grammar ไหมนะ? คำตอบคือ ผิดนะครับ อ้าวเห้ย! มันผิดตรงไหน? 

คำตอบคือ ประโยค “I borrowed from the library last week ” เป็น Adjective clause ทำหน้าที่เป็น Adjective ขยายคำนาม “the book” ที่ทำหน้าที่เป็นประธาน 

แต่ในประโยคนี้ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลยครับ ไม่มีคำกริยา ไม่มีกรรม นั่นทำให้ประโยคนี้เราเรียกว่า “Fragment” ซึ่งถือว่าผิดหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ประโยคต้องมีประธาน และกริยานั่นเอง

ยากใช่ไหมครับ? ไม่แปลกเลยครับ ผมเองก็ผ่านมาเหมือนกัน ยากแต่ใช่ว่าจะเก่งขึ้นไม่ได้นะครับ

2. Logic

มีสองปัจจัยที่กรรมการใช้ในการให้คะแนน Essay เราครับ

  • Coherence & Cohesion หรือ Flow การอ่าน (25%)
  • Task Response – ตอบตรงคำถามไหม? (25%)

นั่นแปลว่า แม้เราจะเขียนถูกหลัก Grammar แค่ไหน จำศัพท์เทพๆ ได้มากมาย โครงสร้าง essay สุดเป๊ะ ก็ยังยากอยู่ดีที่จะทำคะแนนได้ดีถ้าเราเขียนอ่านเข้าใจยากและตอบไม่ตรงคำถาม

ดังนั้นการวางแผนเขียน essay สำคัญมากๆ ครับ การวาง outline essay ว่า essay เราจะมี Thesis statement อะไร และเอาอะไร Topic sentence มาสนับสนุน (ซึ่งผมจะอธิบายต่อในพาร์ทถัดไปครับ)

3. คําเชื่อมประโยค essay

สิ่งที่จะทำให้ Logic ของ Essay เราลื่นไหลถูกใจกรรมการ คือ การใช้คําเชื่อม ภาษาอังกฤษ และ Conjunction อย่างถูกทั้งบริบทและไวยากรณ์ครับ

ลองนึกเป็นภาษาไทยดูนะครับ ระหว่าง “ฉันกิน ฉันหิว” กับ “ฉันกิน เพราะ ฉันหิว” ประโยคไหนดูน่าฟังและลื่นไหลมากกว่ากัน ผมเชื่อว่าต้องเป็นอันที่สองแน่ๆ ใช่ไหมครับ นั่นเป็นเพราะว่า (ไม่ได้เล่นมุกนะครับ แฮร่ !) เรามีการใช้คำสันธาน “เพราะ” เชื่อมสองประโยคเข้าด้วยกันให้เป็นหนึ่งไอเดียนั่นเอง

ภาษาอังกฤษก็เหมือนกันครับ คำเชื่อม essay อย่าง Although, Because, Therefore, Thus หรือ คำสันธานภาษาอังกฤษอย่าง But, And, Or เป็นสิ่งที่จะทำให้การเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ Logic ลื่นไหล น่าอ่าน และทำให้ Essay เราคะแนนสูงขึ้นครับ

แต่แน่นอนว่าการใช้คำเชื่อมเหล่านี้มีหลักไวยากรณ์ที่เราต้องทำตาม ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังอีกทีช่วงทริคครับ  

หลักการเขียน Essay ที่ดี มีวิธีเขียนอย่างไร ?

นอกจากการเน้นเรื่องโครงสร้างกับวิธีเขียน essay แล้ว หลักการเขียนและวิธีเขียนเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสได้ IELTS Writing 7.0 เยอะขึ้นมากๆ ครับ 

ขั้นตอนที่ 1 : วางแผน และ โครงสร้างให้เป๊ะ

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆๆๆ ไม้ยมก พร้อมกอไก่ล้านตัว และยิ่งเป็น IELTS Writing Task 2 ละก็ ผมบอกได้เลยว่าขั้นตอนนี้สำคัญที่สุดของการเขียน essay เลยครับ 

หลายๆ คนไม่ยอมเสียเวลากับตรงนี้เพราะอยากไปทุ่มกับการเขียน Paragraph มากกว่า ซึ่งไม่ผิดครับ แต่ถ้าเราวางแผนไม่ดี ผมเชื่อเลยว่าต้องมีเปลี่ยนกลางคันแน่นอน สมัยผมสอบ GRE ผมใช้เวลากับตรงนี้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ปรับ Thesis statement ไปมา ทำให้ต้องเปลี่ยน Paragraph สรุปไม่ได้เขียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน คะแนนก็ไม่ได้ตามหวัง 

สิ่งที่เราต้องทำก็คือ

  • เขียน outline essay : เริ่มจากวาง Thesis Statement 
  • เขียนหลายๆ เวอร์ชั่น : จากประสบการณ์ผม ไอเดียแรกสุดมักไม่เวิร์คครับ เขียนไปได้สักพัก รู้สึกอยากเปลี่ยน เพราะ Topic Sentence แคบเกิน ตัน เขียนออกยาก ดังนั้นผมแนะนำเลยว่า เขียน Outline หลายๆ เวอร์ชั่นครับ
  • เลือกอันที่เราถนัดมือที่สุด และลองเขียน

สิ่งที่ช่วยชูคะแนนให้ Essay Writing ของเราได้ดีมากๆ คือ โครงสร้างครับ แน่นอนว่ามันน่าเบื่อสุดๆ ต้องเขียนเริ่มจาก Thesis statement โน้นนี่นั่น แต่ผมว่ามันคะแนนฟรีเลยครับ ผมเคยช่วยนักเรียนคนนึงจากคะแนน Writing 4 เป็น 5 ได้ เพราะช่วยให้ Feedback เรื่องโครงสร้างเท่านั้นครับ 

ดังนั้นผมกราบเลย ถ้าอยากได้คะแนนสูงๆ ลอกโครงสร้างวิชาการเลยครับ ง่ายและแถมไม่ต้องทำอะไรใหม่ให้เสียเวลาในห้องสอบด้วย

ขั้นตอนที่ 2 : วางดราฟแรก

ขั้นตอนนี้คือการเอา Outline เวอร์ชั่นที่เราถนัดมือที่สุดมาเขียนครับ โดยผมอยากให้ทุกคนไม่ต้องสนใจ Grammar ณ ตอนนี้ครับ เขียนให้ flow ใจความต้องได้ เน้นให้มันอยู่บนหน้ากระดาษ (หรือหน้าคอมพิวเตอร์) เราก่อน

จุดนี้จะเป็นช่วงชี้ขาดเลยครับสำหรับผม เพราะถ้า outline essay ที่เราทำมา Topic Sentence แคบ เราจะหา Supporting Sentence มาเขียนได้ยาก ซึ่งจะทำให้เรารนสุดๆ และอยากจะเปลี่ยน Thesis Statement หรือ Topic Sentence ใหม่เลยครับ

ดังนั้นเขียนให้สุดครับ แล้วลองอ่านว่าพอได้ไหม ถ้าอยากได้ Topic Sentence สัก 3 แต่คาอยู่ที่ 2 ผมอาจจะเริ่มเหลือบไปดู outline เวอร์ชั่นอื่นๆ แล้วว่ามันพอนำมาปรับใช้กันได้ไหม หรือเปลี่ยนไปเวอร์ชั่นใหม่ดีครับ

ขั้นตอนที่ 3 : ตกผลึก (Editing & Refining)

ขั้นตอนการตกผลึกเป็นขั้นตอนอาวุธลับที่ช่วยให้คะแนนเราสูงได้มากๆ เลยครับ เพราะการเขียนกับการคิดเป็นสิ่งที่มาคู่กัน 

การตกผลึกเพื่อปรับดราฟแรกจะทำให้เราเห็นมุมมอง เห็น flow ที่ทำให้เราไม่เห็นตอนช่วงขั้นตอนวางแผน (ขั้นตอนที่ 1) รวมถึงคำศัพท์ผิด ไปจนถึงพลาดไวยากรณ์ ก็ทำให้เรามีโอกาสแก้ตัวและทำให้งานเขียนเรามีความคมมากขึ้น ดังนั้นผมแนะนำว่าอย่าส่งดราฟแรกเด็ดขาด คอยเกลา essay เราให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ครับ

เริ่มต้นเขียน Essay ต้องทำอย่างไร? 7 ทริค พิชิต IELTS Writing 7

เรารู้ขั้นตอนและหลักการเขียน essay ที่ดีกันไปแล้ว ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนก็รู้อยู่แล้ว แต่แม้จะรู้ขั้นตอนการเขียน Essay ก็จริง แต่ใช่ว่าคะแนนจะเยอะใช่ไหมครับ ถ้าใครสอบหลายๆ รอบจะรู้ดีว่า การจะได้ IELTS 7 พาร์ท Writing ต้องรู้มากกว่านี้

เพราะ IELTS Writing จะวัดจาก 

  • Grammar (25%)
  • Vocabulary (25%)
  • Coherence
  • Task Response

ดังนั้นทริคที่ผมจะแชร์ต้องตอบโจทย์ปัจจัยทั้ง 4 ข้อนี้ครับ จะมีอะไรมาดูกัน

1. Grammar พื้นฐานต้องแน่น

ใครๆ ก็อยากเขียน essay เป็นเลยแบบไม่พึ่ง Grammar ใช่ไหมครับ ผมตอบเลยว่ายากมากๆ แต่ก็ใช่ว่าเราจะต้องเรียนทุกเรื่องของ Grammar ใช่ไหมครับ?

ผมแนะนำว่าเรื่องของ 12 Tense ยังไงก็ต้องเข้าใจในระดับนึงถึงจะสามารถเขียน essay IELTS ได้โดยไม่ผิดไวยากรณ์ เช่น การใช้ was were การใช้ has had have ซึ่งจะเป็นจุดที่ผิดบ่อยๆ เวลาเขียน essay ครับ

2. ศัพท์ต้องเป๊ะ

การใช้ศัพท์ได้เป๊ะทั้งบริบททั้งความหมายช่วยเราได้มากครับ ไม่ใช่แค่ในส่วน Writing ที่ Vocabulary มีผลต่อการได้คะแนนเราถึง 25% เท่านั้น ในส่วนของ Listening เองก็เหมือนกันครับ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษช่วยให้เรา Paraphrase ประโยคได้ดีขึ้น มี Idioms ในหัวให้เลือกใช้ในห้องสอบมากขึ้น และไม่ถูกหลอกว่าศัพท์ไหนต้องเติม s ศัพท์ไหนไม่เติม s อีกด้วยครับ

3. Parts Of Speech

Parts Of Speech เป็นหนึ่งในเรื่องของ Grammar แต่ที่ผมแยกออกมาเพราะว่ามันสำคัญมากๆ ครับ

การเข้าใจ Part of Speech เหมือนกับการเข้าใจรากฐานของภาษาอังกฤษครับ เราจะเข้าใจมากขึ้นว่าแต่ละคำ แต่ละประโยคทำหน้าที่อย่างไรในประโยค แล้วช่วยให้เราไม่ต้องจำ Grammar แบบท่องจำเรื่อยเปื่อย แต่เข้าใจแบบเข้าใจจริงๆ เลยครับ

4. โครงสร้างประโยค

สิ่งที่ยากที่สุดของการเขียน essay คือการเขียน paragraph ใช่ไหมครับ และหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้มันยาก เพราะ Grammar ของประโยคภาษาอังกฤษครับ

Learning English is a challenging yet rewarding journey filled with opportunities to improve language skills, broaden cultural horizons, communicate effectively with people from diverse backgrounds, and open doors to academic, professional, and personal growth, providing individuals with the tools and confidence necessary to navigate a globalized world, break down barriers, and foster meaningful connections that transcend borders and cultures.

ยาวมากเลยใช่ไหมครับ แต่ดูๆ แล้วก็ไม่น่ามีอะไรผิดปกตินี่หน่า แต่จริงๆ ตัวอย่างนี้คือ Run on sentence ครับ คือ ประโยคไม่มีจุด full stop (.) เลย ไม่มีจังหวะให้หายใจด้วย ซึ่งผิดหลักไวยากรณ์ครับ 

ลองอีกสักอันครับ

The fact that learning English is beneficial for career opportunities.

Many people find learning English challenging, it requires dedication and consistent practice.

สองอย่างนี้คือ Sentence fragment กับ Comma splice ครับ อันแรก The fact เป็น Noun และ that learning English is beneficial for career opportunities. เป็น Noun clause ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยคครับ นั่นแปลว่าประโยคนี้มีแต่กริยา ไม่มีประธานนั่นเอง

แนวคิดที่ว่าทั้งหมดนี้สำคัญมากๆ กับการเขียน essay ครับ และถ้าอยากรู้มากขึ้น พื้นฐานเรื่อง Independent clause กับ dependent clause จะสำคัญมากๆ ครับ ผมแนะนำอย่างมากให้อ่านถ้าอยากได้ 7 IELTS พาร์ท Writing

5. ฝึกให้เป็น

ฝึกทุกวันใช่ว่าจะเก่งขึ้นถ้าฝึกไม่เป็น

อย่างที่ผมเคยเล่าตอนสอบ gre ว่าใช้เวลาฝึกเยอะมากๆ แต่คะแนนไม่ขึ้น เพราะเล่นโทรศัพท์ ไม่มีสมาธิ แอบดูเฉลย พอเจอข้อสอบจริงๆ เลยปรับตัวไม่ได้นั่นเอง

ดังนั้นผมแนะนำว่า เราควรทำสิ่งที่เรียกว่า Deliberate Practice การฝึกอย่างมีเป้าหมาย

(เนื้อหาจะได้รับการอัพเดทในอนาคต ขออภัยด้วยครับ)

6. ตามหา Feedback 

อันนี้ผมคิดว่ามีผลมากๆ ครับ ตอนผมฝึก

และตอนที่ผมรับสอน IELTS แรกๆ นักเรียนคนนึงฝึกคนเดียว ไปสอบมาหลายรอบ แต่ก็คะแนนไม่ดีขึ้น เพราะอ่านเอง ไม่ได้หา feedback เพิ่มเติม นักเรียนก็เลยมาหาผม มาขอ Feedback และก็ทำให้คะแนนขึ้นเลยครับ

อีกหนึ่งวิธีในการหา Feedback คือ ลองซื้อโปรแกรมฝึกสอบ Writing ของ GRE ซึ่งจะตรวจคะแนนเราโดยคอมพิวเตอร์ครับ (ผมจะมาอัพเดทเนื้อหาอีกทีนะครับ)

7. อ่านให้เยอะ

มีงานวิจัยเยอะมากๆ ครับว่าการอ่าน ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ อ่านข่าว อ่านซับไตเติ้ลหนัง ต่างช่วยให้เราเก่งภาษาอังกฤษขึ้นครับ และทำให้กาเรียนภาษาอังกฤษสนุกขึ้นมากๆ ด้วยครับ

เพราะว่าการอ่านจะช่วยให้เราคุ้นเคยกับบริบทของคำศัพท์ โครงสร้างประโยค ทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษในบริบทต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งช่วยให้เรานึกออกในห้องสอบได้ง่ายขึ้นมากๆ ครับว่าควรจะเขียน Sentence ไปจนถึง Paragraph แบบไหนดี

ผมแนะนำอ่านกรุงเทพธุรกิจแบบภาษาอังกฤษ ส่วนใครชอบฟังผมแนะนำพอตแคสต์ “คำนี้ดี” ครับ

ทริคแถม

หลายๆ ครั้งที่เราได้คะแนนไม่ดี อาจเป็นเพราะว่าเราเครียดและตื่นเต้นก็เป็นไปได้นะครับ ผมเห็นหลายๆ คนพอเครียดแล้วทำข้อสอบแย่ลง แต่พอไปสอบชิวๆ เตรียมตัวพอประมาณ ดันคะแนนดีซะงั้น ดังนั้นบริหารความเครียดให้เหมาะสม 1 วันก่อนสอบปล่อยชิวครับ ผมเชื่อว่าเราเตรียมตัวมาดีที่สุดแล้ว ปล่อยให้ตัวเราในวันพรุ่งนี้จัดการบ้างครับ!

สรุปการเขียน Essay พิชิต IELTS 7

ผมคิดว่า คนที่สอบได้ Writing 5 – 6 น่าจะนำทริคนี้ไปใช้อย่างน้อยสัก 5 ใน 7 นี้ แน่นอนครับ

สรุปอีกครั้ง

ปูพื้นฐาน Grammar ให้แน่น ฝึกให้เป็น เอาโครงสร้าง essay มาใช้ และเอาขั้นตอนการเขียน essay มาฝึกให้ถนัดมือ

  • วางแผนก่อน คิด Thesis statement คิด Topic sentence ให้ดี
  • เริ่มเขียน
  • ตกผลึก

ถ้าทำได้ทั้งหมดนี้ผมเชื่อว่าคะแนน IELTS 7 ส่วน Writing ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ ครับ

ถ้ากำลังหาคนรับตรวจ essay ที่เชี่ยวชาญ ทักมาคุยกันได้เลย ขอให้ทุกคนโชคดีกับการเตรียมตัวสอบครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *